Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19
(โปรแกรมตัดต่อวิดีโอคุณภาพสูง ระดับมืออาชีพ ฟีเจอร์ครบครัน)
Perpetual License
Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19 เป็นอีกหนึ่ง โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ (Video Editing Software) ยอดนิยมสำหรับการใช้งานในระดับมืออาชีพ เป็นโปรแกรมสำหรับงานตัดต่อวิดีโอเพียงหนึ่งเดียวที่รวมเครื่องมือเอาไว้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือการปรับแก้สี เครื่องมือใส่วิดีโอเอฟเฟกต์ รวมถึงงานปรับแต่งเสียง
เรียกได้ว่ามี โปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19 เพียงโปรแกรมเดียว ก็ทำงานด้านวิดีโอได้สมบูรณ์แบบ ไม่ต้องมีโปรแกรมหลายตัวให้ยุ่งยาก โดยที่โปรแกรมตัวนี้เป็นผลงานการพัฒนาของบริษัท Blackmagic Design ที่มืออาชีพด้านงานตัดต่อวิดีโอทั่วโลกให้การยอมรับ
โดยที่ โปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19 นั้นสามารถสลับการทำงานไปมา ระหว่างการตัดต่อ แก้ไขสี ใส่วิดีโอเอฟเฟกต์ และการปรับแต่งเสียง ได้ภายในคลิกเดียว และโปรแกรมนี้สนับสนุนการทำงานเป็นทีม ทำให้นักตัดต่อ ศิลปินแก้สีภาพ (Colorists) ศิลปินวิดีโอเอฟเฟกต์ (VFX Artists) และนักออกแบบเสียง (Sound Designers) สามารถร่วมกันทำโปรเจกต์วิดีโอเดียวกัน ได้ในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าเราจะทำงานในฐานะศิลปินเดี่ยว หรือทำงานเป็นทีม ก็สามารถสัมผัสได้ถึงประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมของโปรแกรมตัวนี้
ด้วยคุณสมบัติที่ดีเยี่ยม และความสามารถที่ครบครัน ทำให้ โปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19 ได้ถูกนำไปใช้ในขั้นตอนการผลิตภาพยนตร์ฮอลลีวูด (Hollywood Movie) ในหลายๆ เรื่อง รวมถึงรายการโทรทัศน์ และวิดีโอโฆษณาจำนวนมากมาย
สำหรับมืออาชีพด้านงานวิดีโอ ที่ต้องการโปรแกรมตัดต่อที่ตอบโจทย์การใช้งานในระดับมืออาชีพ ก็สามารถหาซื้อ โปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19 ได้ที่ ร้านขาย สินค้าไอที ไทยแวร์ช้อป (Thaiware Shop)
คุณสมบัติ และ ความสามารถ (Features)
ตอบโจทย์งานวิดีโอที่ต้องแข่งกับเวลาด้วย Cut Page
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19 มีมุมมองการตัดต่อวิดีโอแบบ Cut Page ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อรองรับการตัดต่อวิดีโอที่ต้องการทั้งคุณภาพ และความเร็วในการจบงาน อาทิ งานตัดต่อรายการข่าว หรือโฆษณาทางทีวี โดยให้ความสำคัญเรื่องกับเรื่องความเร็ว และอินเตอร์เฟสหน้าเมนูต่างๆ ที่ให้การทำงานที่ลื่นไหล และเครื่องมือใหม่ๆ ที่ช่วยให้ทำงานได้เร็วกว่าที่เคย
โดยมุมมองการทำงานแบบ Cut Page ที่มีอยู่ใน โปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19 เปิดโอกาสให้เราสามารถนำเข้า (Import) รวมไปถึงการตัดต่อ (Edit) ตัดช่วงวิดีโอ (Trim) และใส่ลูกเล่นขณะเปลี่ยนฉาก (Transition) ใส่ไตเติล (Title) มิกซ์เสียง และอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์ผลงานเพื่อเผยแพร่ผ่านรายการโทรทัศน์ หรือ YouTube เพราะว่าในมุมมองแบบ Cut Page จะมีทุกสิ่งที่เราต้องการ สำหรับการสร้างสรรค์งานวิดีโออย่างรวดเร็ว
สร้างสรรค์ผลงานวิดีโอทุกรูปแบบ อย่างไร้ข้อจำกัด
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19 มีทุกสิ่งที่นักตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพต้องการสำหรับสร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ และวิดีโอโฆษณา รองรับทั้งการตัดต่อวิดีโอแบบ ออฟไลน์ และ ออนไลน์ และด้วยเอนจินในการเปิดเล่นไฟล์วิดีโอที่มีประสิทธิภาพเยี่ยม ทำให้ตัดต่อ หรือหั่นคลิปได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้จะทำงานกับฟอร์แมตวิดีโอแบบ H.264 หรือวิดีโอแบบ RAW ก็ตาม
ปรับแต่งคลิปได้ง่ายขึ้น ด้วย โปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19 โดยการใส่ Blend Modes, วิดีโอเอฟเฟกต์ (ResolveFX) และการปรับแต่งอื่นๆ อีกมากมาย ในรูปแบบที่วางเป็นเลเยอร์อยู่เหนือคลิปวิดีโอในไทม์ไลน์ ทำให้สังเกตเห็นการปรับแต่งได้อย่างเด่นชัด และมาพร้อมฟีเจอร์ Stabilization ที่ช่วยแก้ปัญหาภาพวิดีโอสั่นไหวได้เป็นอย่างดี และเรียกใช้งานได้ง่าย
ทำงานกับวิดีโอเอฟเฟกต์ได้ง่ายขึ้น
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19 มีเครื่องมือสำหรับงานวิดีโอเอฟเฟกต์ให้เลือกใช้เกินกว่า 250 ชิ้น และด้วยเอนจินการวางเอฟเฟกต์ 3 มิติของ Fusion VFX ที่มาพร้อม Workflow การทำงานแบบ Node ทำให้สามารถเชื่อมต่อวิดีโอเอฟเฟกต์และเครื่องมือเข้าด้วยกันในรูปแบบการวาง Flow Chart ทำให้ง่ายกับการสร้างสรรค์วิชวลเอฟเฟกต์ระดับงานภาพยนตร์ หรือสร้างสรรค์งานโมชันกราฟิกสวยๆ ได้โดยตรงจากในโปรแกรมนี้เลย
โดยที่ โปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19 ยังมีการใช้ประสิทธิภาพการประมวลผลจากชิปกราฟิกหรือ GPU อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทำให้รองรับงานเอฟเฟกต์ 3 มิติได้อย่างรวดเร็ว และมีเทคโนโลยีการจัดการหน่วยความจำที่ดีเยี่ยม รองรับการทำงานกับฉากที่มีการใส่วิดีโอเอฟเฟกต์หนักๆ ได้อย่างมีเสถียรภาพ
ปรับแต่งสีได้โดดเด่นกว่า
เครื่องมือการปรับแต่งสีทีมีอยู่ใน โปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19 เปิดโอกาสให้เราได้ปรับแต่ง และจัดการเรื่องสีในงานวิดีโอได้เป็นอย่างดี และได้ผลลัพธ์ที่โดดเด่นกว่า โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ ตัวอื่นๆ เป็นเหตุผลที่ภาพยนตร์ และรายการโทรทัศน์จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เลือกใช้งานโปรแกรมนี้ แทนที่เครื่องมืออื่นๆ ในการเกรดสีวิดีโอ (Color Grading)
โดยที่ โปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19 ตัวนี้รองรับการปรับค่าสีอย่างละเอียดแบบ HSL Curve และมีการแสดง Histogram ทำให้ตรวจสอบได้ง่ายว่าการปรับ Curve ตรงจุดไหนที่ส่งผลกับโทนภาพ ช่วยให้ปรับแต่งได้อย่างตรงจุด และมีเครื่องมือที่ช่วยในการปรับแก้สีให้เที่ยงตรงอย่าง Auto Color Balance และ Auto Shot Match ที่ใช้ระบบสมองกลปัญญาประดิษฐ์ในการประมวลผลภาพ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำเที่ยงตรงยิ่งขึ้น
ผลลัพธ์ยอดเยี่ยมด้วยเครื่องมือเกรดสีแบบ HDR
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19 มาพร้อมกับเครื่องมือ HDR Grading Palette ที่เปิดโอกาสให้เราสามารถสร้างวงล้อสี (Color Wheels) สำหรับการปรับแต่งโทนภาพได้อย่างละเอียดอ่อน โดยที่แต่ละวงล้อสีนั้นสามารถปรับค่า ความสว่าง และความอิ่มสี ได้อย่างเป็นอิสระสำหรับค่าความสว่างในแต่ละช่วง (Shadow, Light, Highlight, Global) โดยที่การปรับแต่งโทนภาพด้วยเครื่องมือนี้ ให้ความสำคัญกับเรื่อง Color Space ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีจากการปรับแต่ง
เกรดสีบนใบหน้าอย่างแม่นยำด้วย Magic Mask
การเกรดสีบนตัวนักแสดงจะง่ายขึ้นอีกด้วย โปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19 ที่มาพร้อมกับเครื่องมือ Magic Mask ที่ใช้ระบบสมองกลปัญญาประดิษฐ์ DaVinci Neural Engine ในการสร้าง Mask บนตัวนักแสดงและติดตามความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในเฟรมภาพได้อย่างแม่นยำ หรือจะสร้าง Mask เฉพาะบางส่วนของร่างกาย อย่างเช่น ใบหน้า หรือ มือ ทำให้สามารถทำการเกรดสี หรือทำการปรับแต่งแบบเฉพาะส่วนได้อย่างง่ายดาย
เปลี่ยนลวดลายบนเสื้อผ้า เพิ่มรอยสักให้นักแสดงอย่างแนบเนียน
ด้วยเครื่องมือติดตามความเคลื่อนไหวของพื้วผิว หรือ Surface Tracker ที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมของ โปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19 ทำให้สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของเนื้อผ้า หรือผิวหนังของนักแสดง เพื่อสร้างพื้นผิวที่มีการเคลื่อนที่ให้เป็นแบบ 3 มิติ ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนโลโก้ หรือเปลี่ยนข้อความบนเสื้อที่นักแสดงสวมใส่ หรือเพิ่มรอยสักบนตัวนักแสดงได้อย่างแนบเนียน เป็นธรรมชาติ
ปรับแต่งผิวหน้าสวยเนียน เป็นธรรมชาติ
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19 มาพร้อมกับเครื่องมือ Ultra Beauty ที่สามารถปรับแต่งการทำงานได้แบบลงลึกในรายละเอียด เพื่อปรับแต่งใบหน้าของนักแสดงให้ดูดีอย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด เป็นเครื่องมือที่ได้รับการพัฒนาโดย ศิลปินแก้สีภาพ (Colorists) ระดับมืออาชีพ ปรับแต่งผิวให้เรียบเนียนแบบมีมิติ ทำให้นักแสดงดูมีเสน่ห์มากขึ้น
ทำงานกับเสียงได้อย่างมืออาชีพด้วยฟีเจอร์ Fairlight
ด้วยฟีเจอร์ Fairlight ที่มีอยู่ใน โปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19 ทำให้งานปรับแต่งเสียงกลายเป็นสิ่งที่ไม่ได้ถูกมองข้ามในขั้นตอนการสร้างสรรค์งานวิดีโออีกต่อไป ด้วยความสามารถในการทำงานทดแทนโปรแกรมด้าน DAW (Digital Audio Workstation) ได้เป็นอย่างดี พร้อมความสามารถในการเป็น Mixer, EQ และการจัดการไดนามิกสัญญาณเสียง (Dynamics Processing) รองรับการมิกซ์และสร้างสรรค์งานเสียงรอบทิศทาง 3 มิติได้ในหลายฟอร์แมต อาทิ Dolby Atmos, Auro 3‑D, SMPTE ST 2098
ตัดต่อเสียงได้ง่ายขึ้นด้วยเครื่องมือ Transient Analysis
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19 มาพร้อมเครื่องมือที่ช่วยให้งานตัดต่อเสียงง่ายขึ้น อย่างเครื่องมือ Transient Analysis ที่สามารถตรวจจับ และแยกแยะเสียงของแต่ละคำพูด จังหวะดนตรี หรือแต่ละเสียงเอฟเฟกต์ โดยแสดงการแยกจังหวะเสียงในรูปแบบของเส้นขีดแนวตั้งที่วางทับอยู่บนรูปคลื่นเสียง (Waveform) และเราสามารถกระโดดข้ามไปยังคำพูดแต่ละคำ จังหวะเสียงดนตรีแต่ละจังหวะได้อย่างง่ายดาย ด้วยการกดปุ่มลูกศรบนคีย์บอร์ด ทำให้เราเข้าถึงช่วงเสียงที่ต้องการตัดต่อได้อย่างรวดเร็ว
ร่วมงานในโปรเจกต์วิดีโอเดียวกันอย่างราบรื่น
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19 มีเครื่องมือมากมายที่ช่วยให้ทีมงานวิดีโอที่มีมากกว่า 1 คน สามารถทำงานในโปรเจกต์งานวิดีโอเดียวกันไปพร้อมๆ กันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยการออกแบบหน้าจอการทำงานที่ผ่านการคิดมาเป็นอย่างดี มีระบบการล็อกคลิปวิดีโอ
โปรแกรมนี้ ยังมีช่องทางการแชทคุยกันในระหว่างทีมงาน รวมถึงเครื่องมือเปรียบเทียบไทม์ไลน์วิดีโอ (Timeline Comparison Tools) และเครื่องมืออื่นๆ อีกมากมาย ทำให้โปรแกรมตัวนี้เป็นโซลูชันสำหรับงานวิดีโอเพียงหนึ่งเดียว ที่เปิดโอกาสให้มืออาชีพด้านงานวิดีโอ ที่มีความเชี่ยวชาญแตกต่างกัน สามารถทำงานร่วมกันได้ในเวลาเดียวกัน
ร่วมงานอย่างราบรื่นบน Blackmagic Cloud
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19 มาพร้อมกับระบบ Blackmagic Cloud ช่องทางสำหรับการโฮสต์ไลบรารี่ของโปรเจกต์งานตัดต่อเอาไว้บนอินเทอร์เน็ตคลาวด์ เพื่อให้ทีมงานนักตัดต่อ Colorists นักสร้างสรรค์วิชวลเอฟเฟกต์ และมืออาชีพด้านงานเสียง สามารถร่วมกันทำงานโปรเจกต์เดียวกันไปได้พร้อมๆ กัน ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนในโลก
เปลี่ยนเสียงพูดบรรยายเป็นข้อความด้วย AI
ฟีเจอร์ Transcribe ที่มีอยู่ใน โปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19 ใช้ประโยชน์จาก เทคโนโลยีสมองกลปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถถอดเสียงพูดในคลิปวีดีโอหรือคลิปเสียง เพื่อแปลงเป็นข้อความตัวอักษรโดยอัตโนมัติ ทำได้ง่ายๆ แค่เพียงเลือกวิดีโอหรือคลิปเสียงที่อยู่ใน Media Pool สามารถกำหนดจุดเริ่มและจุดจบเพื่อทำการแก้ไข หรือลบข้อความ และยังทำให้สะดวกสำหรับการสร้าง Sub Clips และยังช่วยในการตัดทิ้งช่วงเสียงเงียบของคลิปได้ด้วย (ฟีเจอร์ Transcribe อาจรองรับเฉพาะการถอดเสียงพูดภาษาอังกฤษ)
ลดเม็ดสีรบกวนโดยยังรักษารายละเอียด
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19 มาพร้อมกับโหมด UltraNR เทคโนโลยีล่าสุดในการกำจัดเม็ดสีรบกวนในวิดีโอ ที่ใช้ประโยชน์จาก Neural Engine เรียกใช้งานโหมด UltraNR จากแถบคำสั่ง Spatial Noise Reduction ที่อยู่ในหน้าจอการทำงาน Color โดยเครื่องมือนี้ช่วยลดเม็ดสีรบกวนได้อย่างมีนัยสำคัญโดยที่ยังคงรักษารายละเอียดที่คมชัด และยังใช้เทคนิคการลดเม็ดสีรบกวนแบบ Temporal NR ที่มีประสิทธิภาพเยี่ยมในการลดเม็ดสีรบกวนในฉากที่มีความเคลื่อนไหวสูง
สร้างเวทีเสียงสมจริงยิ่งขึ้น
ฟีเจอร์ใหม่ของ Fairlight อย่าง IntelliTrack AI Point Tracker ที่มีอยู่ใน โปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19 ช่วยให้มืออาชีพด้านงานเสียงสามารถสร้างการแพนของมิติเสียงได้อย่างแม่นยำ ด้วยการติดตามความเคลื่อนไหวของตัวละครหรือวัตถุในเฟรมภาพวิดีโอ ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวในระนาบ 2 มิติ หรือ 3 มิติ ด้วยพลังการประมวลผลของ AI ช่วยให้การแพนเสียงตามความเคลื่อนไหวของตัวละครจำนวนมากในภาพแวดล้อมที่มีความซับซ้อน เกิดขึ้นได้อย่างแนบเนียนสมจริง
ฉลาดกว่าเดิมด้วยสมองกลปัญญาประดิษฐ์
ด้วยเอนจินการทำงานในรูปแบบใหม่ของระบบสมองกลปัญญาประดิษฐ์ DaVinci Neural ที่มีอยู่ภายใน โปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19 จึงช่วยทำให้งานประมวลผลภาพวิดีโอที่ยากๆ ทำได้รวดเร็วขึ้น และได้ถูกนำมาใช้งานในฟีเจอร์การทำ Speed Warp เพื่อจัดการกับความเคลื่อนไหวในเฟรมภาพ เพื่อให้ทำเอฟเฟกต์การเล่นภาพแบบ Slow Motion ทำได้อย่างราบรื่นเนียนตามากขึ้น และยังถูกนำไปใช้งานในฟีเจอร์ Super Scale เพื่อการอัปสเกลขยายขนาดความละเอียดภาพวิดีโอ
ระบบสมองกลปัญญาประดิษฐ์ DaVinci Neural ที่มีอยู่ใน โปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Blackmagic DaVinci Resolve Studio 19 ยังได้ถูกนำไปใช้งานในฟีเจอร์การปรับแต่งสีอัตโนมัติ รวมถึงฟีเจอร์การรู้จำใบหน้า (Facial Recognition) รวมถึงฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมายที่มีระบบสมองกลปัญญาประดิษฐ์ ทำงานอยู่ในเบื้องหลัง ช่วยให้แก้ปัญหาในงานวิดีโอที่มีความละเอียดอ่อน ซับซ้อน และหมดเปลืองเวลา ได้อย่างง่ายดาย และรวดเร็ว อย่างเช่น การที่ต้องไล่ค้นหาว่าในฉากไหนของวิดีโอบ้างที่มี นาย A ปรากฏอยู่ในเฟรม ด้วยฟีเจอร์ Facial Recognition จะแสดงรายการฉากทั้งหมดที่มีนาย A ปรากฏอยู่ และเรียกดูได้ทันที
ความต้องการของระบบ (System Requirements)
Windows
- OS : Windows 10 or later
- CPU : intel core i7 or AMD Ryzen 7 CPU
- RAM : 16 GB. of system memory (32 GB. for intense graphics work)
- GPU :
- Integrated or discrete GPU with at least 2 GB. of VRAM and supports OpenCL 1.2 or CUDA 11
- Latest driver Blackmagic Design Desktop Video 10.4.1 or later
- Hard Drive : A fast Solid State Hard Drive (SSD)
Mac
- OS : macOS 11 Big Sur or later
- CPU : M1 Apple Silicon CPU (or intel core i7 on older macs)
- RAM : 8 GB. of system memory (16 GB. for intense graphics work)
- GPU : Integrated GPU or discrete GPU with at least 2GB of VRAM and supports Metal or OpenCL 1.2
Linux
- OS : CentOS 7.3
- RAM : 32 GB. of system memory
- CPU : Intel core i7 or AMD Ryzen 7 CPU
- GPU :
- Discrete GPU with at least 2GB of VRAM that supports OpenCL 1.2 or CUDA 11
- Latest driver Blackmagic Design Desktop Video 10.4.1 or later
- Hard Drive : A fast Solid State Hard Drive (SSD)