Samplitude Pro X8
(โปรแกรมตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง ทำเพลงรุ่นโปร)

Perpetual License

Samplitude Pro X8 เป็น โปรแกรมตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง ทำเพลงระดับมืออาชีพ ที่ได้รับการยอมรับจากคนทำเพลง และโปรดิวเซอร์ระดับโลกมากมายหลายราย อาทิ คุณ Mitch Malloy ผู้อยู่เบื้องหลังผลงานเพลงของ Taylor Swift, Van Halen และคุณ Jack Steadman นักร้องนำ มือเปียโน และมือกีตาร์ แห่งวง Bombay Bicycle Club

โปรแกรมตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง รุ่นโปร Samplitude Pro X8 ตัวนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อทำงานด้านเสียงต่าง ๆ มีชุดเครื่องมือให้ใช้ครบถ้วนสำหรับงานปรับแต่งเสียง มิกซ์เสียง อัดเสียง ตัดต่อเสียง ปรับแต่งคุณภาพเสียง และการแต่งเพลง รองรับการทำงานในรูปแบบหลายแทร็กเสียง (Multitrack) มีการแสดงรูปคลื่นเสียง (Waveform) เรียกได้ว่าครบวงจรเรื่องเสียงกันเลยทีเดียว โดยที่โปรแกรมตัวนี้เป็นผลงานการพัฒนาของ บริษัท MAGIX Software ที่มีผลงานการพัฒนาโปรแกรมด้านงานตัดต่อเสียง ตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพให้เลือกใช้งานมากมาย

ถือว่า โปรแกรมตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง รุ่นโปร Samplitude Pro X8 เหมาะสำหรับคนทำงานด้านเสียง ที่ต้องการโปรแกรมที่ใช้งานได้อย่างมืออาชีพ ก็สามารถหาซื้อลิขสิทธิ์แท้ของโปรแกรม ได้ที่ ร้านขาย สินค้าไอที ไทยแวร์ช้อป (Thaiware Shop) แล้ววันนี้

โปรแกรมตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง Samplitude มีทั้งหมดกี่เวอร์ชัน ?

สำหรับชุด โปรแกรมตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง Samplitude นั้นมีวางจำหน่ายใน Thaiware Shop อยู่ทั้งหมด 3 เวอร์ชันหลัก ๆ ด้วยกันคือ

1. Samplitude Music Studio

โปรแกรมบันทึกเสียง ทำเพลง รุ่นมาตรฐาน ที่ลดความยุ่งยากในการทำเพลง รองรับการทำเพลงได้ทุกแนว ไม่ว่าจะเป็น ป๊อป ร็อค แจ๊ส ดนตรีประกอบภาพยนตร์ ดนตรีประกอบเกมที่ให้อารมณ์สนุกสนาน ลึกลับ 

(ดูรายละเอียด : โปรแกรม Samplitude Music Studio)

2. Samplitude Pro

โปรแกรมตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง รุ่นโปร ที่รองรับความต้องการของมืออาชีพด้านงานเพลงได้ครบ ตั้งแต่การบันทึกเสียง ตัดต่อเสียง แต่งเพลง มิกซ์เสียง เรียบเรียงเสียงเครื่องดนตรี ไปจนถึงการทำ Mastering และมาพร้อมโปรแกรมฟรีอีก 2 ตัว อาทิ

1. โปรแกรม iZotope Ozone Elements
2. โปรแกรม Celemony Melodyne essential

(ดูรายละเอียด : โปรแกรม Samplitude Pro)

3. Samplitude Pro Suite

โปรแกรมตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง รุ่นสูงสุด มีความสามารถ และมีโปรแกรมฟรีทุกอย่างที่มีในเวอร์ชัน Pro แต่มีความสามารถที่มีเพิ่มเติมเข้ามาในเวอร์ชัน Pro Suite คือ ความสามารถในการตรวจสอบระดับ Loundness ตามมาตรฐาน EBU R128 และการสร้างไฟล์ตามมาตรฐาน DDP เพื่อการปัมพ์แผ่น CD Audio และยังมาพร้อมโปรแกรมฟรีอีก 2 ตัว อาทิ

1. โปรแกรม Sound Forge Pro
2. โปรแกรม iZotope RX Elements

(ดูรายละเอียด : โปรแกรม Samplitude Pro Suite)

คุณสมบัติ และ ความสามารถ (Features)

บันทึกเสียงอย่างเป็นธรรมชาติ เก็บทุกรายละเอียดเนื้อเสียง

โปรแกรมตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง รุ่นโปร Samplitude Pro X8 ก็ยังให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพในการบันทึกเสียงอย่างยิ่งยวด ให้เนื้อเสียงที่ถูกต้องเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ ด้วยคุณภาพการเก็บบันทึกระดับเสียงด้วยการประมวลผลในระดับจุดทศนิยมหลักลอย (Floating Point) ทำให้ไม่มีรายละเอียดเสียงใดเล็ดลอดไปได้ และได้เนื้อเสียงที่คงรักษาบุคลิกของเนื้อเสียงต้นฉบับเอาไว้อย่างเหนียวแน่น แม้สัญญาณเสียงจะถูกประมวลผลเป็นไฟล์ดิจิทัลด้วยกระบวนการที่ซับซ้อนก็ตาม ผลลัพธ์คือ ไฟล์เสียงดิจิทัล ที่ให้เนื้อเสียงปลอดโปร่ง เป็นธรรมชาติ เก็บรักษาบุคลิกเสียงในแต่ละช่วงเวลาเอาไว้ได้เป็นอย่างดี

ด้วยความสามารถในการทำงานกับแทร็กเสียงได้มากถึง 999 แทร็ก รวมถึงการทำงานร่วมกับ Input และ Output สัญญาณเสียงได้มากถึง 256 ช่องทาง ทำให้ไม่เป็นปัญหากับการนำไปใช้งานในโปรเจกต์ขนาดใหญ่ รองรับการทำงานกับฟอร์แมตไฟล์เสียงได้ตั้งแต่ 16 บิต ไปจนถึง 32 บิต และรองรับ Sample Rates ของสัญญาณเสียงได้สูงสุดถึง 384 kHz

บันทึก และตัดต่อเสียงไปได้พร้อม ๆ กัน

โปรแกรมตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง รุ่นโปร Samplitude Pro X8 มีฟีเจอร์ Live Editing ที่ทำให้สามารถตัดต่อเสียง ไปพร้อมกับที่การบันทึกเสียงกำลังดำเนินไปได้เลย ไม่ต้องรอคอยให้เสียเวลา สามารถตัดช่วงที่ไม่ต้องการทิ้ง ปรับแต่งเสียง รวมถึงสามารถส่งออกไฟล์เสียง (Export Audio File) ในบางช่วงบางตอน ขณะที่กำลังบันทึกเสียงได้เลย และฟีเจอร์การตัดต่อเสียงถือเป็นแกนหลักสำคัญของโปรแกรม ด้วยความสามารถในการตัดต่อที่แม่นยำ และสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปรับแต่งได้ตามต้องการ

นอกจากการตัดต่อทำงานกับแทร็กเสียงโดยทั่ว ๆ ไปแล้ว โปรแกรมตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง รุ่นโปร Samplitude Pro X8 ก็ยังมีฟีเจอร์การตัดต่อแบบ Object-based อาทิ การเซ็ตค่า Curves สำหรับการเฟดเสียง (Faed) ปรับเพิ่มลดระดับเสียงด้วยเมาส์ และอำนวยความสะดวกด้วยความสามารถในการคัดลอก (Copy) แทร็กเสียงข้ามโปรเจกต์งานตัดต่อ เรียกใช้เสียงที่ใช้งานบ่อย ๆ ได้อย่างง่ายดาย

แต่งเพลงด้วยเครื่องมือที่ง่าย และเครื่องดนตรีหลากหลาย

ต้นกำเนิดของแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เสียงดนตรีไม่เคยเหือดหาย เพราะใน โปรแกรมตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง รุ่นโปร Samplitude Pro X8 มีตัวช่วยสำหรับการเรียบเรียงเสียงเครื่องดนตรี บวกกับเครื่องมือจำนวนมากสำหรับการสร้างสรรค์ และปรับแต่งเสียง มาพร้อมตัวเลือกมากมายในการสร้างสรรค์งานดนตรีประกอบ และการทำงานกับเครื่องดนตรี MIDI พร้อมด้วยเครื่องดนตรีเสมือน (Virtual Instruments) จำนวนมากที่มีให้เลือกใช้ในโปรแกรม ที่ให้โทนเสียงเหมือนบรรเลงด้วยเครื่องดนตรีจริง

Mastering ระดับสุดยอด เพื่อผลลัพธ์สุดท้ายที่ดีที่สุด

และแน่นอนว่า โปรแกรมตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง รุ่นโปร Samplitude Pro X8 ให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดในขั้นตอนการ Mastering เพื่อให้ได้ผลลัพธ์สุดท้ายที่ดีที่สุด ก่อนที่ผลงานจะเผยแพร่ออกไป โดยที่เอฟเฟกต์เสียงทุกอย่างในโปรแกรมได้ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ Mastering คนทำงานด้านเสียงสามารถตรวจสอบคุณสมบัติด้านเสียงต่าง ๆ ที่สำคัญ ๆ ไม่ว่าจะเป็นค่า Peak, Loudness, Frequency Response และค่า Phase Coherence โดยมิเตอร์ที่ทำหน้าที่แสดงค่าต่าง ๆ สามารถปรับแต่งการทำงานได้ตามต้องการ

และด้วยเครื่องมือ WaveColor ใน โปรแกรมตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง รุ่นโปร Samplitude Pro X8 ที่สามารถแสดงคุณสมบัติต่าง ๆ ของสัญญาณเสียงให้เห็นอย่างเด่นชัดในลักษณะของแถบสีที่มีความเข้มจางต่างกัน ทำให้สามารถตรวจสอบค่า Pitch และบุคลิกของสัญญาณเสียงในแต่ละช่วง โดยการอิงตามค่าความเข้มของสี ทำให้รู้ได้เลยว่าตรงช่วงไหนมีสัญญาณเสียงรบกวน หรือมีความผิดปกติเกิดขึ้น โดยที่ไม่ต้องไล่พรีวิวเปิดฟังทั้งหมด ควบคุมและปรับแต่งระดับความดังเสียงด้วยเครื่องมือ sMax11 Brickwall Limiter

ปรับโทนเสียงอย่างละเอียดแม่นยำด้วย dynamicEQ

โปรแกรมตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง รุ่นโปร Samplitude Pro X8 มาพร้อมเครื่องมือที่ช่วยให้การมิกซ์เสียงง่ายและแม่นยำขึ้นอย่าง dynamicEQ มันสามารถลดทอน และยกระดับคลื่นความถี่ใดได้อย่างเฉพาะเจาะจง ทำให้สามารถเน้นโทนเสียงของชิ้นดนตรีที่ต้องการได้อย่างโดดเด่น ลดทอนและปรับแต่งโทนเสียงตลอดทั้งโปรเจกต์งานเสียง ได้ด้วยตัวเลือกฟิลเตอร์เสียงที่หลากหลายในแต่ละย่านอีควอไลเซอร์ (Equalizer - EQ) ทำให้สามารถแก้ไขแทร็กเสียงต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ

เข้าถึงการปรับแต่งแทร็กเสียงได้อย่างง่ายดาย

โปรแกรมตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง รุ่นโปร Samplitude Pro X8 มาพร้อม ตัวปรับแต่งแทร็กเสียง (Track Editor) ที่ช่วยให้เข้าถึงรายการปรับแต่งสำคัญ ๆ ได้อย่างง่าย ๆ ในทุกเวลาที่ต้องการ ตั้งแต่การปรับตั้งค่า AUX, มิกซ์เซอร์, ปลั๊กอิน และอีควอไลเซอร์ สามารถลาก Track Editor ไปวางไว้บนจุดต่าง ๆ ของหน้าจอได้ทั้งในแนวตั้งและแนวนอน สามารถปรับ Fader และปรับแต่งค่าต่าง ๆ ของแทร็กเสียงได้อย่างรวดเร็ว

ตัดต่อไปพร้อม ๆ กับการเปิดเล่นเสียง

โปรแกรมตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง รุ่นโปร Samplitude Pro X8 ช่วยให้งานตัดต่อเสียงเสร็จเร็วขึ้น ด้วยความสามารถในการ ตัดต่อ เรียบเรียงเสียง ไปได้พร้อม ๆ กับการเปิดเล่นเสียงเลย เราสามารถเปิดฟังคลิปเสียงที่บันทึกมา แล้วทำการตัดช่วงเสียงที่ไม่ต้องการทิ้ง และเรียบเรียงเสียงไปได้พร้อม ๆ กัน

ปรับแต่งขั้นตอนการ Comping เพื่อการสร้างสรรค์งานเสียงได้ง่ายขึ้น

โปรแกรมตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง รุ่นโปร Samplitude Pro X8 ได้รับการปรับแต่งและยกระดับการทำงานในขั้นตอนของการ Comping ให้ง่ายขึ้น และขยายขอบเขตความคิดสร้างสรรค์ให้กว้างขึ้น สามารถสลับไปมาระหว่าง Take ต่าง ๆ ในงานบันทึกเสียงได้อย่างรวดเร็ว เลือกส่วนที่ดีที่สุด และแก้ไขรายละเอียดเสียงทั้งหมดไปพร้อม ๆ กัน  โดยแทร็กเสียงที่บันทึกมาพร้อมกันจะถูกจัดกลุ่มเอาไว้โดยอัตโนมัติ ช่วยลดเวลาการทำงาน และทำงานให้งานด้านเสียงเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น

ปรับแต่งช่วงเวลาของเสียงได้อย่างรวดเร็วด้ว ย AudioWarp

ด้วยฟีเจอร์ AudioWarp ที่มีอยู่ใน โปรแกรมตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง รุ่นโปร Samplitude Pro X8 ช่วยให้ได้ผลงานดีที่สุดจากแทร็กเสียงของคุณ ช่วยให้ภาระงานที่ต้องเสียเวลามาก กลายเป็นสิ่งไม่จำเป็นอีกต่อไป สามารถปรับแต่งช่วงเวลาของเสียงได้อย่างแนบเนียนไร้รอยต่อ ด้วยอัลกอริทึมการยืดช่วงเวลาของเสียงที่ทำงานได้ในระดับก้าวหน้า ช่วยให้ได้ผลงานเสียงที่ดีเยี่ยมโดยไม่ต้องหมดเปลืองเวลา 

การแสดงแทร็ก MIDI ที่โดดเด่น  ชัดเจน  

โปรแกรมตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง รุ่นโปร Samplitude Pro X8 ยกรับการแสดงรายละเอียดของแทร็ก MIDI ที่โดดเด่น ชัดเจน ทำงานง่ายขึ้น แสดงบล็อกตัวโน้ตอย่างเด่นชัด และการแสดงรหั สสียังช่วยให้จัดเรียงได้ง่ายขึ้น ติดตามทุกรายละเอียดที่เกิดขึ้นในโปรเจกต์งานทำเพลงได้เป็นอย่างดี

ยกระดับการส่งออกงานเ สียง 

การส่งออกผล งานเสียง (Export) เป็นฟังก์ชันสำคัญของโปรแกรมทำเพลงทุกตัว และ โปรแกรมตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง รุ่นโปร Samplitude Pro X8 ได้รับการปรับแต่งขั้นตอนการส่งออกให้ดีเยี่ยม ทำให้การสร้างสรรค์งานเพลงเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ด้วยขั้นตอนการทำงานแบบใหม่ที่เข้าใจง่าย และหน้าตาโปรแกรมที่ทันสมัย เข้าถึงคำสั่งพรีเซ็ตในการส่งออกผลงานได้รวดเร็วจากหน้าเมนูหลัก

รองรับการใช้งานกับปลั๊กอิน MIDI VST

โปรแกรมตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง รุ่นโปร Samplitude Pro X8 รองรับการใช้งานกับปลั๊กอิน MIDI ทำให้เกิดความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ในการสร้างสรรค์งานเพลง เปิดกว้างกับการใช้งานปลั๊กอิน MIDI ได้หลากหลาย และสามารถใช้ปลั๊กอินหลาย ๆ ตัวทำงานร่วมกันได้ และยังสามารถ Route สัญญาณ MIDI ได้อย่างอิสระ

รองรับการใช้งานกับฮาร์ดแวร์คอนโทรลเลอร์

โปรแกรมตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง รุ่นโปร Samplitude Pro X8 รองรับการใช้งานอย่างเต็มรูปแบบกับฮาร์ดแวร์คอนโทรลเลอร์รุ่น Softube Console 1 และ PreSonus Faderport โดยที่ทุก ๆ ฟังก์ชันและซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ของคอนโทรลเลอร์ จะสามารถใช้ควบคุมการทำงานของโปรแกรมตัวนี้ได้จริง โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาปรับตั้งค่าใด ๆ ให้ยุ่งยาก และใช้งานง่าย

ใช้ฮาร์ดแวร์เอฟเฟกต์ในรูปแบบปลั๊กอิน

โปรแกรมตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง รุ่นโปร Samplitude Pro X8 ยกระดับการเชื่อมต่อใช้งานกับฮาร์ดแวร์เอฟเฟกต์ภายนอก ที่สามารถใส่เข้ามาในโปรเจกต์งานทำเพลงของคุณได้ในรูปแบบของ ปลั๊กอินเอฟเฟกต์ ที่ไม่เพียงช่วยให้การทำงานกับอุปกรณ์เอฟเฟกต์ง่ายขึ้น คุณยังสามารถนำเข้าฮาร์ดแวร์เอฟเฟกต์เข้ามาในโปรเจกต์ได้มากเท่าที่ต้องการ โดยทำผ่าน Plug-in Browser ช่วยเปิดความเป็นไปได้ใหม่ ๆ และยังสามารถ Route เอฟเฟกต์ได้อย่างยืดหยุ่น

มาพร้อมกับ iZotope Ozone Elements โปรแกรม Mastering เพลงรุ่นเริ่มต้น

โปรแกรมตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง รุ่นโปร Samplitude Pro X8 มาพร้อมกับ iZotope Ozone Elements ที่เป็นโปรแกรมด้านงานทำต้นฉบับเสียง หรือต้นฉบับเพลง (Sound or Music Mastering) ที่ถือได้ว่าสร้างตำนานมาอย่างยาวนานกว่า 17 ปี จะนำความสมบูรณ์แบบยอดเยี่ยมมาสู่ผลงานเพลงของเรา ด้วยเทคโนโลยีในระดับก้าวหน้าที่นำระบบปัญญาประดิษฐ์ (Machine Learning) มาช่วยในงาน Mastering

ด้วยเครื่องมือ Master Assistant ที่มีอยู่ใน โปรแกรมทำต้นฉบับเสียง ต้นฉบับเพลง รุ่นเริ่มต้น iZotope Ozone Elements จะช่วยให้เราเริ่มต้นกับการ Mastering ผลงานเพลงได้อย่างง่าย ๆ ด้วยการกำหนดค่าต่าง ๆ ที่เหมาะกับสไตล์เพลงของเรา ทำให้เดินต่อไปได้ถูกทาง ช่วยให้จัดการกับค่า Loudness ได้อย่างถูกต้องสำหรับบริการสตรีมมิ่งเพลงอีกด้วย และยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ด้านงาน Mastering ในรูปแบบอื่น ๆ อีกมากมาย

ความต้องการของระบบ (System Requirements)

• OS : 
  • Windows 11 (32 - 64 Bits)
  • Windows 10 (32 - 64 Bits)
• CPU : 2 GHz. or more
• RAM : 2 GB. (32-bit), 4 GB. (64-bit)
• Hard drive : 20 GB.
• Graphics card : Onboard, minimum resolution 1,024 x 768
• Sound card : Onboard or better
• Program languages : English, Deutsch, Français, Español
• Internet connection : Required for registering and validating the program, as well as for some program features. Software requires one-time registration.
• File Formats
  • Audio
    • AAC* : Import
    • AIFF : Import/Export
    • FLAC : Import/Export
    • MIDI standard formats (MID, GM, GS, XG), : Import/Export
    • MP3 : Import/Export
    • OGG Vorbis : Import/Export
    • SD2 : Import
    • WAV : Import/Export
    • WAV with codec : Import/Export
    • WMA : Import/Export
  • Video
    • AVC-Intra* : Import
    • DV-AVI : Import
    • DVCPRO* : Import
    • H.264 : Import
    • HDV HD1 : Import
    • HDV HD2 : Import
    • MPEG-1 : Import
    • MPEG-2 : Import
    • MPEG-4 : Import
    • MXV : Import
    • WMV(HD) : Import
  • Other
    • Audio CD : Import/Export
    • Data CD/DVD : Import/Export
    • DDP : Import/Export

* Free activation
Note : Only non-copy-protected audio CDs can be imported.

เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างแต่ละเวอร์ชัน (Comparison Table)

ตารางเปรียบเทียบความสามารถ โปรแกรมทำเพลง Samplitude ในแต่ละเวอร์ชัน