เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (15 พฤศจิกายน 2016) ในงาน Airbnb Open Conference ที่เมือง Los Angeles นาย Brian Chesky ซีอีโอของ Airbnb ได้เปิดตัวแผนการใหญ่ในการปรับเปลี่ยนธุรกิจให้เป็นบริษัทท่องเที่ยวอย่างครบวงจร

โดยในขั้นแรก Airbnb ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในแอพพลิเคชั่นที่เรียกว่า "Trips" ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวได้พบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ในสถานที่ท่องเที่ยวที่เขาเลือก โดยจุดเด่นของฟีเจอร์นี้ Airbnb เรียกมันว่า "Experience" ด้วยการจับคู่นักท่องเที่ยวเข้ากับคนท้องถิ่น ที่นำเสนอกิจกรรมในพื้นที่ของตน โดยใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วัน ด้วยฟีเจอร์นี้ จะทำให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มด่ำประสบการณ์กับคนในพื้นที่อย่างแท้จริง นอกเหนือจากการเที่ยวชมสถานที่น่าสนใจในพื้นที่นั้นๆ เพียงอย่างเดียว นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ Airbnb ที่จะเปิดโอกาสให้กับผู้ใช้งานที่ไม่ได้มีห้องพักให้นักท่องเที่ยวเช่า ได้มีส่วนร่วมและสร้างรายได้ผ่านแพล็ตฟอร์มนี้

ปัจจุบัน มีประมาณ 500 Experience ใน 12 เมืองใหญ่ทั่วโลก ได้แก่ ลอสแองเจลิส, ไมอามี่, ดีทรอยท์, ฮาวานา, ลอนดอน, ปารีส, ฟลอเรนซ์, ไนโรบี, เคปทาวน์, โตเกียว และโซล ซึ่งผู้ใช้สามารถค้นหา Experience ในเมืองเหล่านี้ได้เช่นเดียวกับการหาที่พักในแอพพลิเคชั่น โดย Experience นี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ แบบใช้เวลาท่องเที่ยวหลายวัน (เช่นการเล่นเซิร์ฟบอร์ดและตั้งแคมป์ใน LA) กับแบบใช้เวลาเป็นชั่วโมง (เช่นทริปถ่ายรูปตอนกลางคืนในกรุงโซล หรือการเรียนทำค็อกเทลในซานฟรานซิสโก)

ด้านนาย Mike Curtis รองประธานบริษัทด้านผลิตภัณฑ์ ระบุว่าฟีเจอร์ดังกล่าวนั้นไม่ได้ทำให้นักท่องเที่ยวที่มีการวางแผนชัดเจนอยู่แล้ว ต้องเลือกตัดบางกิจกรรมออกจากแผนไป แต่เป็นการเสริมให้ผู้คนที่อยู่ในสถานที่นั้นๆ ได้เชื่อมต่อเข้าหากันมากยิ่งขึ้น โดยกล่าวว่า "เราต้องการแน่ใจว่านักท่องเที่ยวที่ใช้บริการ Airbnb จะสามารถเข้าถึงจุดหมายปลายทางที่เขาเลือกที่จะไปได้จริงๆ นอกเหนือจากการไปถึงสถานที่นั้นๆ ซึ่งเราได้มองหาบางอย่างที่สามารถทำให้นักท่องเที่ยวดื่มด่ำกับประสบการณ์อันแสนพิเศษในเวลาที่พวกเขาไปถึงได้จริงๆ ซึ่งก็คือสิ่งนี้"

น่าสนใจไม่น้อยที่ยักษ์ใหญ่อย่าง Airbnb ลงมาเล่นเอง ซึ่งทำให้ผู้คนในท้องถิ่นสามารถเชื่อมต่อกับนักท่องเที่ยวได้ง่ายดายยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการสร้างรายได้เสริมได้อีกช่องทางหนึ่ง แต่สิ่งที่ต้องระมัดระวังต่อไปก็คือในเรื่องของความน่าเชื่อถือของไกด์นำเที่ยว ที่อาจมีมิจฉาชีพแฝงเข้ามาได้ นี่อาจเป็นโจทย์ใหญ่ที่ท้าทายสำหรับ Airbnb ในการจัดการ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ และไม่จำเป็นต้องพึ่งพาบริษัททัวร์ในการนำเที่ยวอีกต่อไปในอนาคต