สถาบันวิจัย McKinsey ได้ทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างแรงงานในสหรัฐอเมริกา รวมถึงบางประเทศสมาชิกในกลุ่มสหภาพยุโรป (ได้แก่อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, สเปน และสวีเดน) ทั้งในภาครัฐและเอกชน พบว่าแรงงานอิสระมีจำนวนพุ่งสูงขึ้นถึง 162 ล้านคน เกินกว่าที่ได้ประเมินไว้ในผลสำรวจฉบับก่อนหน้านี้ประมาณร้อยละ 20 ถึง 30 ของจำนวนแรงงานทั้งหมด
จากรายงานฉบับก่อนหน้านี้ ได้ทำการสำรวจโดย Freelancer's Union (องค์กรปกป้องสิทธิประโยชน์ของฟรีแลนซ์ในประเทศสหรัฐอเมริกา) ได้คาดการณ์ว่าจำนวนฟรีแลนซ์ในสหรัฐอเมริกานั้นมีจำนวนประมาณ 55 ล้านคน ซึ่งจากผลสำรวจใหม่นั้นถือเป็นปรากฎการณ์ที่เหนือความคาดหมายอย่างยิ่ง และคาดว่าจะยังคงมีการเติบโตต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ McKinsey ได้ทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างที่ทำงานอิสระควบคู่ไปกับการทำงานประจำ มากกว่าคนที่ทำงานฟรีแลนซ์เป็นงานหลักเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้แรงงานอิสระยังหมายรวมถึงผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัวอีกด้วย
โดยผลสำรวจชี้ว่าในจำนวน 162 ล้านคนนี้ มีแรงงานจำนวนร้อยละ 15 ที่ใช้ Digital Platform เป็นตัวช่วยในการทำงาน เช่น การขายสินค้าผ่าน eBay และ Etsy หรือปล่อยห้องให้เช่าผ่าน AirBnb เป็นต้น และในจำนวนร้อยละ 15 นี้ มีเพียงร้อยละ 6 เท่านั้นที่เป็นผู้ใช้แรงงาน นอกจากนี้ยังมีแรงงานอีกจำนวนหนึ่ง (แต่ถือเป็นจำนวนเพียงเล็กน้อย) ที่ขายแรงงานให้กับบริษัท Startup ชั้นนำในฐานะพาร์ทเนอร์ เช่น Uber, Postmates และ TaskRabbit
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังชี้ว่าร้อยละ 70 ของกลุ่มตัวอย่างนั้นเลือกที่จะทำงานอิสระ ไม่ว่าจะเป็นงานหลักหรืองานเสริมก็ตาม ส่วนร้อยละ 30 ที่เหลือนั้นเลือกทำงานอิสระเพียงเพราะความจำเป็น
แม้ว่าผลสำรวจข้างต้นนั้นจะเป็นผลสำรวจจากแรงงานในประเทศสหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรปก็ตาม แต่สำหรับในประเทศไทยเองก็อาจจะไม่ได้มีความแตกต่างกันเท่าใดนัก ซึ่งเป็นผลจากเทคโนโลยีที่เติบโตแบบก้าวกระโดด รวมถึงวิถีชีวิต รูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไป ถึงแม้จะยังไม่มีผลสำรวจออกมาเป็นตัวเลขที่แน่ชัด แต่ก็เชื่อเหลือเกินว่าวงการฟรีแลนซ์ในบ้านเราก็น่าจะมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นเช่นเดียวกัน