การเข้ามาของ Airbnb ซึ่งเป็นแพล็ตฟอร์มสำหรับการค้นหาบ้านเช่า - ที่พักสำหรับนักเดินทาง ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมไม่น้อย ทำให้หลายๆ ประเทศเริ่มออกกฎหมายเพื่อควบคุมการดำเนินงาน รวมถึงเพื่อรักษาผลประโยชน์ของกลุ่มธุรกิจโรงแรม เช่นในประเทศญี่ปุ่น ที่ได้ออกกฎหมายบังคับให้เจ้าของบ้านต้องให้แขกเข้าพักอย่างน้อย 1 สัปดาห์จึงจะสามารถปล่อยเช่าได้ ล่าสุดกลุ่มธุรกิจโรงแรมในฝรั่งเศส ได้ประสบความสำเร็จในการเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขกฎหมายภาษีที่เกี่ยวกับค่าเช่า ให้มีความรัดกุมยิ่งขึ้น เพื่อชะลอการเติบโตของ Airbnb นั่นเอง

ซึ่งการแก้ไขกฎหมายนี้ได้บังคับให้ Airbnb ต้องส่งข้อมูลภาษีให้กับรัฐบาลฝรั่งเศส แทนที่จะเรียกเก็บข้อมูลจากเจ้าของบ้านที่ปล่อยพื้นที่เช่าให้ผู้เดินทางเข้าพักอาศัย และเป็นผลมาจากการตรากฎหมายในปีที่ผ่านมา ที่ห้ามไม่ให้ประชาชนในปารีสนั้นปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ของตนเองเกินกว่า 120 วันต่อปี ส่วนถ้าใครต้องการปล่อยเช่าเป็นจำนวนวันที่มากกว่านั้น ต้องจดทะเบียนทรัพย์สินต่อรัฐบาลเพื่อจดแจ้งว่าเป็นสถานให้บริการในเชิงพาณิชย์อีกด้วย ซึ่งคนที่ละเมิดกฎหมายดังกล่าวนั้นอาจถูกปรับเงินเป็นจำนวนสูงสุดถึง 26,000 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 930,000 บาท) เลยทีเดียว

ต่อกรณีดังกล่าว รัฐบาลประจำกรุงปารีสนั้นได้ประมาณการณ์ว่าน่าจะมีผู้ปล่อยเช่าของ Airbnb จำนวนมากที่ได้ทำการละเมิดกฎ 120 วัน และมีความตั้งใจที่จะปราบปรามการละเมิดดังกล่าว ซึ่งฝรั่งเศสและเมืองปารีสนั้นถือเป็นตลาดที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับ Airbnb ด้วยการบังคับใช้กฎหมายนี้ อาจมีผลทำให้จำนวนผู้ปล่อยเช่าที่พักในปารีสนั้นลดฮวบลงได้อย่างรวดเร็วก็เป็นได้ ซึ่งปารีสนั้นได้ติดอันดับเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมมากที่สุดเป็นอันดับ 3 เมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา อ้างอิงจากรายงานของ MasterCard ซึ่งได้ทำการตรวจสอบการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในการซื้อตั๋วเครื่องบิน, การจองโรงแรม รวมถึงการใช้จ่ายในช่วงวันหยุดอื่นๆ ทั้งนี้ Airbnb ได้ระบุว่าจำนวนที่รัฐบาลได้ประมาณการณ์นั้นเป็นจำนวนตัวเลขที่สูงเกินความเป็นจริงเกินไป