จิตวิทยาของสีส่งผลต่อแบรนด์อย่างไร?
“สี” เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มีความสำคัญในการช่วยเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ได้ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์แฟชั่นที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหรือแบรนด์ที่เกี่ยวกับเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ต้องการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์เพื่อเพิ่มความไว้วางใจของลูกค้าสิ่งเหล่านี้สามารถใช้ "สี" โดยศึกษาจากความหมายต่างๆของสีเพื่อช่วยดึงดูดและเชื่อมโยงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ดีมากขึ้น
หากเพื่อนๆคนไหนไม่ชอบอ่านบทความยาวๆ แอดมีแบบเป็นเวอร์ชั่นของ Podcast ด้วยนะคะ
สามารถกดไปฟังกันได้ที่
ถึงแม้ว่าการรับรู้เกี่ยวกับสีของแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันออกไปโดยอาจจะขึ้นอยู่กับความรู้สึกส่วนตัวและรากฐานที่มาจากประสบการณ์หรือวัฒนธรรมของแต่ละคนแต่ละเชื้อชาติ แต่กล่าวได้ว่าความหมายของสีนั้นก็มีความหมายที่เป็นสากลด้วยเช่นกัน “จิตวิทยาของสี” นั้นสามารถใช้เพื่อช่วยเสริมสร้างแบรนด์ให้มีความน่าเชื่อถือและมั่นคงได้ แต่จะทำได้อย่างไร?และความหมายสากลของแต่ละสีนั้นคืออะไรบ้าง? วันนี้แอดจะมาเล่าให้เพื่อนๆได้ฟังกัน
แล้วจริงๆจิตวิทยาสีคืออะไร?
จิตวิทยาสี เป็นการศึกษาเรื่องสีที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมมนุษย์เพื่อพิจารณาว่าสีส่งผลอย่างไรบ้างต่อการตัดสินใจของคนเราในชีวิตประจำวัน อาธิเช่น สีมีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือไม่,สีของชุดหรือสีของแพ็กเกจต่างๆที่เราเห็นนั้นมีผลต่อการตัดสินใจของเราหรือไม่? สีของปุ่มกดต่างๆที่แสดงผลมีผลต่อการคลิกของเราหรือไม่? ซึ่งคำตอบนั้นเพื่อนๆคงรู้อยู่แล้วว่า สี มีผลต่อการตัดสินใจของเราๆไม่มากก็น้อยในทางใดทางหนึ่งเสมอ
ภาพจาก oberlo.com
ทำไมจิตวิทยาของสีถึงสำคัญ?
กล่าวได้ว่าการเลือกใช้สีได้เหมาะสมสำหรับการทำการตลาดนั้นอาจส่งผลให้แบรนด์ของเราดูโดดเด่นขึ้นมาจากแบรนด์อื่นๆ และสามารถทำให้ผู้รับสารนั้นได้รับข้อความหรือสิ่งที่แบรนด์ต้องการจะสื่อได้ชัดเจนและตรงประเด็นมากยิ่งขึ้นเหล่านี้คือเหตุผลที่สำคัญมากๆที่เหล่านักการตลาดทั้งหลายควรศึกษาถึงการใช้จิตวิทยาสีเพื่อมาทำการตลาดให้ตรงจุดที่สามารถสื่อสารความเป็นแบรนด์ออกมาให้ผู้บริโภครับรู้ได้
จากข้างต้นที่ได้กล่าวว่าการเลือกสีได้ถูกต้องและเหมาะสมจะสามารถสร้างการรับรู้ของแบรนด์ได้ ทั้งนี้หากเลือกใช้สีที่ผิดล่ะจะส่งผลอย่างไรต่อแบรนด์บ้าง? การเลือกใช้สีที่ไม่เหมาะสมนั้นอาจจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้ อาธิเช่น การเลือกใช้สีที่ไม่เหมาะสมในการทำคอนเทนต์หรือโลโก้อาจส่งผลให้ผู้ชมมีจำนวนในกาคลิกน้อยลงหรือไม่สามารถเข้าใจถึงสิ่งที่ต้องการจะสื่อได้อย่างตรงจุดและที่สำคัญอาจทำให้ผู้ชมที่พบเห็นนั้นไม่สนใจคอนเทนต์หรือโลโก้นั้นๆเลยก็ได้ค่ะ เพราะสีนั้นสามารถสร้างอิทธิพลต่อความคิดและพฤติกรรมในการรับข้อมูลต่างๆและยังเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการช่วยตัดสินใจของผู้คน นี่จึงเป็นเหตุผลที่สำคัญที่เราควรจะต้องศึกษาให้เข้าใจถึงความหมายของสีสันต่างๆ
เรื่องของจิตวิทยาสีที่น่าสนใจ
ภาพจาก webfx.com
มูลที่น่าสนใจจาก Webfx ได้นำเสนอว่า กว่า 84.7% ของผู้บริโภคที่ระบุว่า “สี” เป็นสาเหตุหลักของการตัดสินใจซื้อสินค้า 93% เลือกซื้อสินค้าจากสิ่งที่ตาเห็น 6% เลือกซื้อสินค้าจากผิวสัมผัส และ 1% เลือกซื้อสินค้าจากเสียงหรือกลิ่น
ภาพจาก webfx.com
80% ของผู้บริโภคมองว่า “สี” จะช่วยทำให้จดจำแบรนด์ได้ดีขึ้น
52% ของผู้บริโภคมองว่าจะไม่กลับไปซื้อสินค้าในร้านเดิมหากภาพรวมของร้านนั้นๆดูไม่สวยงาม
ภาพจาก webfx.com
มีผลการวิจัยด้านการตลาดที่ชี้อีกว่าผู้บริโภคนั้นจะจัดสินใจซื้อสินค้าด้วย “จิตใต้สำนึก” ภายใน 90 วินาทีแรกหลังจากได้ดูสินค้า และอีก 62% และ 90% ของผู้บริโภคนั้นตัดสินใจซื้อสินค้าโดยประเมินจากสีเพียงอย่างเดียว
โฆษณาที่เป็นสีนั้นจะมีความดึงดูดมากขึ้นว่าภาพโฆษณาขวาดำถึง 42% และกล่าวได้ว่าการใช้ “สี” นั้นจะช่วยให้เกิด
- ความเข้าใจถึง 73%
- ความเรียนรู้ 55-68%
- กระตุ้นให้เกิดการอ่านถึง 40%
มาดูความหมายของสีกัน
-
Red Color Psychology
สีแดง เป็นสีที่มีความเข้มข้นและสามารถดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี โดยสีแดงนั้นเป็นสีที่จะสื่อได้ถึงความตื่นเต้น, ความหลงใหล, ความอันตรายและพลังงาน หากเราต้องการสร้างความดึงดูดด้วยความน่าตื่นเต้นเราควรจะเลือกใช้สีแดง เพื่อนๆอาจจะเคยเห็นว่ามีการใช้ปุ่ม “ซื้อเลย (Buy now)” หรือใช้สีนี้เป็นแพ็กเกจจิ้งเพื่อเพิ่มความดึงดูดและโดดเด่นเวลาอยู่ในชั้นวาง เป็นต้น
เนื่องจากสีแดงเป็นสีที่มีความอิ่มตัวของสีค่อนข้างสูงดังนั้นการเลือกใช้งานจึงจะต้องมีความระมัดระวังในการเลือกใช้อยู่พอสมควร โดยหากจะใช้สีแดงในเว็บไซต์นั้นควรใช้เฉพาะปุ่มหรือไอคอนต่างๆ ที่ต้องการจะเน้นหรือเป็นสินค้าที่ลดราคาเท่านั้น
สีแดงเป็นสีที่มีแนวโน้มที่สามารถกระตุ้นความอยากอาหารได้ดังนั้นจะเห็นว่าแบรนด์ เครื่องดื่มโค้ก (Coca Cola) นั้นใช้สีแดงเป็นหลักและมักจะสื่อถึงความสุขและ activity ต่างๆเพื่อสร้างความตื่นเต้นอยู่เสมอ อีกหนึ่งแบรนด์ที่ใช้สีแดงก็คือ YouTube เนื่องจากต้องการสื่อถึงความตื่นเต้นหรือกระตุ้นให้เกิดการคลิกดูคลิปต่างๆ ดังที่สังเกตุได้ว่ารูปโลโก้นั้นเป็นรูปปุ่มสำหรับคลิกเพื่อเล่นคลิปนั่นเองค่ะ
ภาพจาก coca-cola.com
ภาพจาก coca-cola.com
ภาพจาก pinterest.com
-
Orange Color Psychology
สีส้ม เป็นสีที่สื่อได้ถึงความคิดสร้างสรรค์,การผจญภัย,ความกระตือรือร้น,ความสำเร็จ และความสมดุล สีส้มนั้นจะช่วยเพิ่มความรู้สึกสนุกสนานให้กับรูปภาพบนเว็บไซต์ หรือสื่อการตลาดต่างๆ แม้จะมีความดึงดูดแต่จะไม่โดดเด่นเท่ากับสีแดงค่ะ
ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้สีส้ม เช่น Nickelodeon เป็นช่องที่นำเสนอสื่อสำหรับเด็กจึงเลือกใช้สีส้มเพื่อสื่อถึงความคิดสร้างสรรค์ กระตือรือร้นและความสนุกสนานขี้เล่นของเด็กๆ นั่นเอง อีกแบรนด์หนึ่งที่น่าสนใจนั่นคือ Shopee แพลทฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ที่มีการใช้สีส้มเป็นโลโก้ รวมทั้งช่องทางสื่อต่างๆ สามารถสื่อได้ถึงความสุข ความสนกสนานในการหาสิ่งของเพื่อช้อปปิ้งไม่ว่าอะไรที่ต้องการ ทุกสิ่งสามารถหาได้จากที่นี่แน่นอน!!
ภาพจาก nick.com
ภาพจาก whats-on-netflix
ภาพจาก shopee
ภาพจาก shopee
ภาพจาก shopee
-
Yellow Color Psychology
สีเหลือง เป็นเป็นสีที่บ่งบอกอารมณ์ได้หลากหลาย เช่น ความสุข,การมองโลกในแง่ดีและฤดูร้อน รวมทั้งเป็นสีที่หมายถึงความต้องการ และความหิว จึงเป็นอีก 1 เหตุผลที่เหล่าธุรกิจอาหารจานด่วนเลือกใช้สีเหลืองในการออกแบบแต่สีเหลืองยังสามารถสื่อได้ถึงการเตือน (warning) หรือการหลอกลวงได้อีกด้วยดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้สีเหลือง หากต้องการนำเสนอเกี่ยวกับความมั่นคง และความปลอดภัย เป็นต้น ในขณะที่สีเหลืองในโทนเข้ม หรือสีทองจะให้ความหมายที่หรูหราในขณะที่สีเหลืองอ่อนจะเหมาะกับธุรกิจเชิงพาณิชย์
ภาพจาก designmantic.com
ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้สีเหลือง เช่น Ferrari แบรนด์รถสุดหรูที่สื่อถึงความรู้สึกของความสุข ฤดูร้อน และการใช้ชีวิตสุดสบายที่ไร้ความกังวล เป็นต้น และยังมีแบรนด์อาหารสุดฮิตอย่าง McDonald's ที่มีการใช้สีเหลืองและสีแดงในตัวโลโก้ที่เป็นสัญลักษณ์ที่คุ้นตาผู้คนมากมายทั่วโลก สีแดงเป็นตัวกระตุ้นและเกี่ยวข้องกับอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งจะช่วยทำให้ร่างกายเกิดความต้องการในบางอย่างส่วนสีเหลือง มีความสัมพันธ์กับความสุขและเป็นสีที่มองเห็นได้ง่ายที่สุดในเวลากลางวัน ดังนั้น จึงไม่แปลกใจที่ป้ายของ McDonald’s จะโดดเด่นท่ามกลางท้องถนนที่พลุกพล่าน
ภาพจาก carlogos.org
ภาพจาก bestdesigns.co
ภาพจาก adsoftheworld.com
-
Pink Color Psychology
สีชมพู เป็นสีที่มักจะพบเห็นได้ในผลิตภัณฑ์ของใช้ของผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ความหมายในทางจิตวิทยาของสีชมพูคือ เป็นสีที่สื่อถึงความเป็นผู้หญิง ความสนุกสนาน ความซุกซน วัยสดใสและความรัก จะเห็นได้ว่าบางแบรนด์จะใช้สีชมพูเป็นสีของผลิตภัณฑ์สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะและอีกหลายๆแบรนด์ที่มีการเน้นใช้สีชมพูในโลโก้, เว็บไซต์ และใช้เพื่อเน้นข้อความที่ต้องการจะสื่อ เป็นต้น สีชมพูจะมักจะมีผลต่อความรู้สึกด้านความอ่อนโยน อ่อนเยาว์ อ่อนหวาน มีความนุ่มนวล ความสวยงาม
ภาพจาก designmantic.com
ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้สีชมพูที่เรารู้จักและคุ้นตากันนั่นคือ Barbie ตุ๊กตาจำลองรูปคน ส่วนมากมักจะเป็นเด็กผู้หญิง หญิงสาวหรือไม่ก็เป็นเจ้าหญิงนั่นเอง ซึ่งมีการนำสีชมพูมาใช้ทั้งโลโก้และตัวบรรจุภัณฑ์เพื่อเป็นการเสริมความเป็นผู้หญิงของแบรนด์ให้มากขึ้น อีกแบรนด์ที่น่าสนใจที่มีการใช้สีชมพูนั่นคือแบรนด์ Victoria’s Secret แบรนด์ชุดชั้นในสุดเซ็กซี่ที่มีการใช้โลโก้และข้อความการตลาดเป็นสีชมพู อีกทั้งบนเว็บไซต์มีการใช้สีชมพูและสีดำเพื่อเน้นรายละเอียดต่างๆที่แลรนด์ต้องการนำเสนออีกด้วยค่ะ
ภาพจาก barbie.mattel.com
ภาพจาก victoriassecret.com
ภาพจาก misswhoeveryouare.com
-
Green Color Psychology
จิตวิทยาของ สีเขียว จะมีความเชื่อมโยงกับธรรมชาติและเรื่องของการเงิน การเจริญเติมโต ความกลมกลืน ความสดชื่น ความอุดมสมบูรณ์ ปลอดภัย การเริ่มต้นใหม่สิ่งใหม่ๆและสุขภาพ เป็นต้นซึ่งสีเขียวก็ยังมีความหมายในเชิงบวก อย่างเช่น ความเอื้ออาทร และความหมายในเชิงลบคือ ความอิจฉา อีกด้วยค่ะ ดังนั้นจึงเหมาะกับบริษัท หรือธุรกิจที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม หรือเกี่ยวกับการเงิน
ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้สีเขียว เช่น ธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเป็นสถาบันทางด้านการเงินที่ใช้ทั้งโลโก้ และการนำเสนอต่างๆเป็นสีเขียวทั้งหมดทำให้สีเกิดเป็นภาพจำของแบรนด์ เป็นการใช้สีเพื่อสร้างจุดดึงดูดหรือสร้างตัวตน ทำให้ผู้ที่พบเห็นสามารถคาดเดาหรือนึกถึงแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
ภาพจาก designmantic.com
ภาพจาก kasikornbank.com
ภาพจาก brandbuffet.in.th
-
Blue Color Psychology
จิตวิทยาของ สีฟ้า เป็นสีที่หมายถึง สันติภาพและความสงบด้วยเหตุนี้สีนี้จึงเป็นของธุรกิจที่จะสร้างแรงบันดาจให้เกิดความไว้วางใจ ความมั่นคง ความสงบ ความน่าเชื่อถือ ความสามัคคี ความสำเร็จและความภาคภูมิใจ สิ่งเหล่านี้นี่คือเหตุผลที่สถาบันการเงินและภาคสุขภาพใช้ประโยชน์จากสีฟ้า นอกจากนี้สีฟ้าที่เข้มขึ้นเหมาะสำหรับสถาบันการศึกษา สีฟ้าที่อ่อนลงจะเหมาะกับการค้าขายและเรื่องสุขภาพ แต่ทั้งนี้สีฟ้าก็มีความหมายในเชิงลบด้วยเช่นกันนั่นคือ ความรู้สึกหดหู่ ความเศร้า และความเย็นชา เป็นต้น
ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้สีฟ้าที่เราๆรู้จักกันเป็นอย่างดีนั่นคือ Facebook, Twitter และ Skype ที่ใช้สีฟ้าในการทำการตลาดรวมถึงโลโก้รวมถึงแบรนด์ Walmart ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีการใช้สีฟ้าเป็นโลโก้เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ความไว้วางใจรวมทั้งความผ่อนคลาย และแบรนด์ Oral B แบรนด์สุขภาพฟันที่จำหน่ายแปรงสีฟันการดูแลสุขภาพในช่องปาก ที่มักจะใช้สีฟ้าในทางการตลาดต่างๆเพื่อให้ผู้บริโภคเห็นภาพของความมีคุณภาพที่เชื่อถือได้ และความปลอดภัยของสินค้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
ภาพจาก walmart.com
ภาพจาก logos-download
ภาพจาก oralb.com
ภาพจาก Oral-B Thailand
-
Purple Color Psychology
จิตวิทยาของ สีม่วง เป็นสีที่สื่อความหมายถึงความหรูหรา ฐานันดรศักดิ์ อำนาจ ศักดิ์ศรี ความมั่นคง มั่งคั่ง และความสง่างาม ความมีเสน่ห์น่าค้นหา เป็นต้นแต่มีข้อแนะนำว่าไม่ควรใช้สีม่วงมากเกินไปเพราะสีม่วงยังมีความหมายถึงความเย่อหยิ่งอวดดี และความทะเยอทะยาน อีกทั้งยังแฝงไว้ด้วยความรู้สึกของการไว้อาลัย ความเศร้าโศก สีม่วงอ่อนจะให้ความรู้สึกความอ่อนไหว โรแมนติก ความคิดสร้างสรรค์
ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้สีม่วงอาธิเช่น การบินไทย ซึ่งใช้มีม่วงเป็น 1 ในสีประจำของแบรนด์และการใช้สีม่วงนี้เนื่องมาจากต้องการสื่อถึงดอกกล้วยไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ประจำของการบินไทยค่ะ และสีม่วงยังสื่อถึงความหรูหรามีระดับและความสะดวกสบายเป็นการสื่อถึงการบริการที่ทางแบรนด์นั้นใช้สำหรับทำการตลาดอีกด้วย อีกแบรนด์ที่ใช้สีม่วงนั่นคือ ธนาคารไทยพาณิชย์ นั่นเองซึ่งเป็นสถาบันทางการเงินที่มีการสร้างเอกลักษณ์ให้จดจำง่าย สะดุดตา ด้วยการใช้ สีม่วง ซึ่งหมายถึง สีแห่งพลังอำนาจและความสุขุม อีกด้านหนึ่งสื่อว่าเป็นธนาคารที่ก่อกำเนิดโดยพระมหากษัตริย์ เป็นต้น
ภาพจาก designmantic.com
ภาพจาก brandage.com
ภาพจาก Thai Airways
ภาพจาก SCB Thailand
-
White Color Psychology
จิตวิทยาของ สีขาว จะมีความหมายที่สื่อถึงแสงสว่าง ความดี ความไร้เดียงสา ความสะอาด ความนอบน้อมและความบริสุทธิ์
ภาพจาก designmantic.com
สีขาว ยังสื่อถึงสถานพยาบาล และการปลอดเชื้อโรคถือว่าเป็นสีสันแห่งความสมบูรณ์แบบ สีขาวสามารถแสดงถึงการเกิด หรือจุดเริ่มต้นที่ประสบความสำเร็จความเท่าเทียมและการแต่งงาน แต่สีขาวยังมีความหมายในเชิงลบด้วยโดยจะสามารถสื่อได้ถึงความว่างเปล่าและเยือกเย็น ความหลุดพ้น ความเบา และความตาย เป็นต้น
แบรนด์ที่ใช้สีขาวในการทำการตลาดนั่นคือ ASOS และ Adidas โดยแบรนด์ ASOS จะใช้สีขาวในตัวโลโก้ พื้นหลัง และส่วนของ header เมื่อพื้นหลังเป็นสีเทาหรือดำ และจะสลับเป็นสีดำเมื่อใช้พื้นหลังต่างๆเป็นสีขาว และในเว็บไซต์ออนไลน์ของแบรนด์ Adidas มีการใช้แถบเมนูเป็นสีดำการใช้โลโก้ที่เป็นสีขาวจะช่วยสร้างคอนทราสต์ และหากใช้พื้นหลังเป็นสีขาวก็จะสลับใช้โลโก้เป็นสีดำเช่นกัน และอีกหลายแบรนด์ที่ใช้สีขาวเป็นสีหลักนั้นจะมีการจับคู๋สีกับสีเทา หรือดำมาใช้อีกด้วย
ภาพจาก asos.com
ภาพจาก campaignlive.co.uk
ภาพจาก adsoftheworld.com
ภาพจาก adsoftheworld.com
-
Black Color Psychology
สีดำ เป็นที่นิยมใช้ในร้านค้าปลีก แต่ในทางจิตวิทยาความหมายของสีดำนั้นเป็นสัญลักษณ์ของความลึกลับ อำนาจ ความสง่างาม ความซับซ้อนและความเป็นทางการ ส่วนความหมายทางแง่ลบนั้นสีดำสามารถสื่อได้ถึง ความเศร้าโศก ความโกรธ ความกลัว ความมืด ความตาย ความชั่วร้าย
สีดำยังเป็นสียอดนิยมสำหรับการเขียนข้อความต่างๆเนื่องจากเป็นสีที่ทำให้อ่านได้ง่ายและจะเห็นได้ว่าร้านค้าแฟชั่นมากมายใช้สีดำเป็นโลโก้แบรนด์ บางแบรนด์ยังใช้รูปถ่ายแบบขาวดำเพื่อนำเสนอไลฟ์สไตล์ หรือเป็นไอคอนเพื่อสร้างความสอดคล้องของแบรนด์เองด้วยค่ะ
ภาพจาก designmantic.com
แบรนด์ที่ใช้สีดำในการทำการตลาด เช่น Chanel ซึ่งใช้สีดำเป็นโลโก้แบรนด์และยังมีการใช้ภาพสไตล์ขาวดำหลายภาพเพื่อคงภาพลักษณ์ของแบรนด์อยู่เสมอแม้แต่ตัวเว็บไซต์ของแบรนด์เองก็เช่นกัน อีกแบรนด์นึงก็คือแบรนด์ Nike มีการใช้สี ดำ เทาและขาวสำหรับตัวเว็บไซต์ รวมทั้งโลโก้ซึ่งภาพรวมนี้ทำให้เว็บไซต์อ่านง่าย สบายตาและเรียบง่ายค่ะ
ภาพจาก behance.net CHANEL, ADVERTISING CAMPAIGN 2020
ภาพจาก fashionharp.com
ภาพจาก bragmybag.com
ภาพจาก nike.com
ภาพจาก businessinsider.com
-
Grey Color Meaning
ความหมายทางจิตวิทยาของ สีเทา นั้นหมายถึงความสมดุล และความเป็นกลางซึ่งที่มีความหมายเช่นนี้นั้นอาจเพราะเนื่องจากสีเทาเป็นสีที่อยู่ตรงกลางระหว่างการผสมสีขาวและสีดำอย่างเท่าๆกันนั่นเองค่ะ ความหมายในเชิงลบของสีเทานั้นอาจหมายรวมไปถึงการสูญเสีย หรือสภาวะซึมเศร้า เป็นต้น
Apple เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ใช้สีเทาเป็นอัตลักษณ์ของแบรนด์ และตัวเว็บไซต์ก็ยังมีการบาลานซ์ความสมดุลของการใช้สีเทา ขาวและดำอีกด้วยค่ะ
ภาพจาก apple.com
ภาพจาก /twitter.com/GPHIIC
-
Brown Color Psychology
สีน้ำตาล เป็นสีที่มีความธรรมชาติสีของพื้นดิน ไม้และก้อนหิน ซึ่งมีความหมายทางจิตวิทยาที่สื่อถึงความอบอุ่น ความใส่ใจ ความปลอดภัยและความปลอบประโลมส่วนใหญ่มักจะพบว่ามีการใช้สีน้ำตาลสำหรับผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและอาหาร สีน้ำตาลสามารถใช้ได้ทั้งโลโก้,ภาพแบนเนอร์ และข้อความต่างๆที่มีการใช้สีขาวเป็นสีพื้นหลัง เป็นต้น
ภาพจาก designmantic.com
ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้สีน้ำตาลเช่น UPS ซึ่งเป็นบริษัทดำเนินการด้านขนส่งที่ใช้สีน้ำตาลเป็นหนึ่งในโลโก้ รวมทั้งข้อความบนเว็บไซต์และรถขนส่งสินค้า การใช้สีน้ำตาลนี้ทำให้มีความรู้สึกปลอดภัย เชื่อถือได้ และมีความติดดิน เหมือนความรู้สึกที่ลูกค้าอยากได้จากบริการขนส่ง
ภาพจาก ups.com
ภาพจาก wired.com
จิตวิทยาของสีและความเข้าใจที่ผิด?
แม้ว่าจะมีการศึกษาและวิเคราะห์ในเรื่องจิตวิทยาสีมาหลายปีแล้วแต่ก็ยังคงมีการถกเถียงกันมากมายเกี่ยวกับผลกระทบที่แท้จริงของสีที่มีต่อจิตวิทยาของมนุษย์สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะเมื่อพูดถึงจิตวิทยาของสีนั้นมักจะมีตัวแปรมากมายอาธิเช่น ต่างคนต่างอาจจะมีความเห็นหรือความรู้สึกต่อสีแตกต่างกัน การที่เรารับรู้ถึงความรู้สึกจากสีบางอย่างอาจเกี่ยวข้องกับความชอบส่วนตัว หรือประสบการณ์ในอดีต รวมถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมความแตกต่างทางเพศและอื่น ๆ เป็นต้น
ภาพจาก oberlo.com
และเราก็มาถึงตอนสุดท้ายกันแล้วค่ะ หลังจากที่เพื่อนๆได้อ่านหรือฟัง Podcast ประกอบบทความนี้กันมาแล้วคงจะได้รู้เกี่ยวกับเรื่องจิตวิทยาของสีต่างๆกันแล้ว ทีนี้ก็ถึงเวลาใช้มันกับการสร้างสรรแบรนด์ธุรกิจของเพื่อนๆกันแล้วค่ะ แต่แอดอยากจะบอกว่าถึงเราจะรู้ความหมายที่เป็นกลางของแต่ละสีแล้วแต่เราก็ไม่จำเป็นจะต้องทำตามกฎเสมอไปนะคะ เหมือนที่แอดเคยพูดว่าเรื่องของสีไม่มีถูกและผิด เรา่สามารถเลือกใช้สีที่ตรงกับข้อความหรือสารที่เราต้องการให้แบรนด์เราเป็นได้เสมอหรือจะเลือกสีที่คิดว่าจะสามารถกระตุ้นความสนใจของลูกค้าได้เวลาผลิตภัณฑ์ของเราวางอยู่บนชั้นวางก็ได้เช่นกันค่ะ
ภาพจาก londonimageinstitute.com