5 เคล็ดลับพิชิตใจให้ลูกค้ากลับมาจ้างซ้ำ
4 มกราคม 2560

 

เป็นที่รู้กันดีว่าฟรีแลนซ์นั้นเป็นอาชีพที่มีรายได้ไม่แน่นอนในแต่ละเดือน จะเข้ามามากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับปริมาณงานที่เราทำในแต่ละเดือน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับจำนวนลูกค้าที่จ้างเรานั่นเอง ยิ่งเรามีลูกค้าจ้างเรามากเท่าไหร่ ความมั่นคงของรายได้ที่เข้ามาในแต่ละเดือนก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

 

เพราะการหาลูกค้ารายใหม่นั้นยากกว่าการรักษาลูกค้าเก่าหลายเท่า และยิ่งเรามีลูกค้าเก่ากลับมาจ้างเราซ้ำมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้รายได้ในการเป็นฟรีแลนซ์ของเรามั่นคงมากยิ่งขึ้นเท่านั้น แต่จะทำยังไงให้ลูกค้ากลับมาจ้างเราซ้ำได้? ลองอ่านเคล็ดลับ 5 ข้อจาก FreelanceBay กันดีกว่า

 

1. "รู้จัก" ลูกค้าจริงๆ

การทำความรู้จักและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้านั้นเป็นเรื่องที่ดี และถือเป็นส่วนสำคัญไม่น้อยที่จะทำให้ลูกค้าเลือกเราให้ทำงานให้ แต่มันจะดียิ่งกว่าถ้าเรามีการเตรียมตัวที่ดีมากพอ มีการทำการบ้าน ศึกษาข้อมูลธุรกิจของลูกค้า และแมทช์สิ่งที่ลูกค้าขาดเข้ากับสิ่งที่เราสามารถเติมเต็มให้พวกเขาได้ ก่อนที่จะนำเสนอหรือขายงาน จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับจ้างงานได้มากกว่าการไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย อย่าลืมว่าลูกค้านั้นไม่ได้เลือกจ้างเราจากการมีความสัมพันธ์ที่ดี แต่เลือกจากความสามารถ และสิ่งที่เราสามารถทำให้พวกเขาได้ต่างหาก ซึ่งถ้าเราสามารถทำได้ดีตั้งแต่ในครั้งแรก ก็จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับพวกเขา และกลับมาจ้างเราในภายหลังได้ในที่สุด

 

2. แตกต่างอย่างมีชั้นเชิง

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบัน จำนวนคนที่ทำงานเป็นฟรีแลนซ์นั้นเริ่มจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนบางทีก็ทำให้ลูกค้าตัดสินใจยากว่าจะเลือกให้ใครทำงานให้ดี ซึ่งบริการที่ฟรีแลนซ์แต่ละคนสามารถทำให้ลูกค้าได้นั้นก็ดูเหมือนๆ กันไปหมด แต่หากคุณสามารถสร้างความแตกต่างจากคนอื่นๆ ได้ ด้วยการเสนอผลประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับมากกว่าคนอื่นๆ หรือด้วยบริการของคุณนั้นจะสามารถสร้างกำไรให้กับธุรกิจของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ก็ย่อมทำให้ลูกค้าให้ความสนใจในตัวคุณมากกว่า เพราะสำหรับธุรกิจแล้วเรื่องผลประโยชน์นั้นย่อมมาเป็นอันดับต้นๆ หากมีคนที่สามารถทำผลประโยชน์ให้บริษัทได้มากกว่า ก็น่าเลือกให้ทำงานให้มากกว่าคนอื่นถูกไหม

 

3. อย่ากดราคาตัวเอง

แม้ว่าในวงการฟรีแลนซ์นั้นจะมีการแข่งขันที่สูง จนทำให้ฟรีแลนซ์หลายๆ คนเลือกที่จะยอมลด หรือตัดราคาคนอื่นเพื่อให้ได้งานมาทำก็ตาม แต่ขอบอกเลยว่าวิธีนี้นั้น "ไม่เวิร์ค" อย่างแรงสำหรับในระยะยาว การที่คุณยอมตัดราคาตัวเองให้ต่ำลงนั้น ย่อมสะท้อนให้เห็นว่าคุณเป็นฟรีแลนซ์ที่ไม่มีคุณภาพ เพราะหากคุณมั่นใจในฝีมือ ทักษะต่างๆ รวมถึงศักยภาพที่คุณมีว่าไม่เป็นสองรองใครแล้วล่ะก็ มันไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่เราจะต้องลดเกรดตัวเองลงไปแข่งกับฟรีแลนซ์มือใหม่เลย การที่ค่าตัวเราสูง ย่อมแสดงถึงประสบการณ์และชั่วโมงในการทำงานที่สูงกว่า ทั้งนี้ก็ควรตั้งราคาให้สมเหตุสมผลด้วย ไม่ใช่ว่าตั้งราคาสูงได้ตามใจฉันจนเกินความสามารถที่ตัวเองทำได้จริง แบบนั้นลูกค้าก็เซย์กู้ดบายได้ง่ายๆ เหมือนกันจ้า

 

4. ขายสิ่งที่ตัวเองถนัดที่สุด

เชื่อเหลือเกินว่าฟรีแลนซ์หลายๆ คนคงไม่ได้มีความสามารถเดียวเป็นแน่ ทั้งบางคนยังมองว่าด้วยความสามารถหลายๆ ด้านที่ตัวเองมีนี้ จะช่วยต่อยอดให้กับงานฟรีแลนซ์ของตัวเองได้ เช่น บางคนมีความถนัดในการออกแบบที่เป็นเลิศ และอาจมีทักษะในการถ่ายรูปร่วมด้วยเล็กน้อย จึงพยายามที่จะขายเรื่องการถ่ายรูปให้ลูกค้า แต่อย่าลืมว่าลูกค้านั้นต้องการงานระดับมืออาชีพ ลำพังแค่คุณมีกล้องและความสามารถในการถ่ายรูปนิดๆ หน่อย ไม่ได้แปลว่าคุณเป็นช่างถ่ายภาพมืออาชีพ และคุณก็คงไม่อยากส่งงานดาดๆ ให้กับลูกค้าเหมือนกันใช่ไหมล่ะ ฉะนั้นการอยู่ในจุดที่ตัวเองสามารถทำได้ดีและถนัดที่สุดย่อมจะดีกว่า ทั้งยังแฮ้ปปี้ทั้งลูกค้าและตัวคุณอีกด้วย

 

5. หาคนทำงานแทนในเวลาฉุกเฉิน

จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณสัญญาและตกลงกับลูกค้าไปแล้วว่าจะทำงานส่งให้ แต่ไม่สามารถทำงานได้ทัน? งานเข้าไงจะอะไรล่ะ เสียความน่าเชื่อถือและเครดิตไปเลย ดังนั้นในกรณีฉุกเฉิน ถ้าคุณรู้ตัวว่าไม่สามารถทำงานได้ทันจริงๆ คุณควรเลือกที่จะจ้างให้คนอื่นมาทำงานแทนคุณ โดยอาจเป็นเพื่อนร่วมงานที่รู้จักฝีมือกันดี หรือเพื่อนสมัยเรียนที่ไว้ใจได้ ให้ช่วยทำงานให้ เพื่อให้งานที่คุณตกลงรับทำมานั้นเสร็จตรงตามเวลาที่กำหนด และสามารถส่งมอบให้กับลูกค้าได้ทันนั่นเอง ทั้งนี้คุณควรจะมั่นใจว่าคนที่คุณเลือกให้มาทำงานแทนนั้น จะสามารถทำงานแทนตัวคุณได้ โดยสามารถทำงานได้ตรงกับที่ลูกค้าต้องการได้เช่นเดียวกัน

 

ทั้ง 5 เคล็ดลับเหล่านี้ก็เป็นทักษะที่ฟรีแลนซ์ทุกคนควรมีติดตัวไว้ อย่าลืมว่าความมั่นคงของรายได้ในการเป็นฟรีแลนซ์นั้นขึ้นอยู่กับจำนวนงานที่ได้มาจากลูกค้าว่ามีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งลูกค้าที่เคยจ้างเรามาก่อนนี่แหละที่จะทำให้เรามีรายได้ที่มากขึ้นได้ นอกจากนี้หากลูกค้าให้เครดิตและความไว้เนื้อเชื่อใจกับเราสูงล่ะก็ เขาก็จะเป็นคนที่ช่วยบอกต่อเราให้กับคนอื่นๆ ต่อไป โดยที่เราไม่จำเป็นต้องวิ่งหาลูกค้าใหม่ๆ เลย

กำลังเชื่อมต่อ