การเรียนจบมาไม่ตรงกับสายงานที่ทำ ในบางครั้งอาจไม่ใช่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราหางานทำไม่ได้ โดยเฉพาะกับงานที่ต้องใช้ทักษะและการฝึกฝน แต่สำหรับบางคนมันอาจเป็นพรสวรรค์ แบบคุณปิน หรือปิยพนธ์ (Pinza Studio) ที่แม้จะเรียนจบมาทางสาขาบริหารธุรกิจ แต่ด้วยความรักในการวาดรูป และโอกาสที่ได้รับจากโรงเรียนสอนออกแบบกราฟฟิก ทำให้คุณปินเบนสายจากงานทางด้านบริหารธุรกิจ และเริ่มทำงานด้านกราฟฟิกมาจนถึงปัจจุบัน
แนะนำตัวให้เพื่อนๆ รู้จักกันสักหน่อย
สวัสดีครับ ผมปิยพนธ์ จันทร์แจ่ม ชื่อเล่นชื่อปินครับ ผมเรียนจบมาจากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เนื่องจากตอนนั้นงานด้านแอนิเมชั่นยังไม่บูมเหมือนตอนนี้ ทำให้ตอนนั้นเลือกเรียนด้านบริหารครับ หวังว่าจบมาจะหางานทำได้ไม่ยาก แต่ด้วยความที่ส่วนตัวแล้วชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็กๆ เลย หลังจากที่เรียนจบแล้ว ปินก็ได้ไปหาประสบการณ์เพิ่มเติมโดยการเรียนพวกคอร์สต่างๆ ตามสถาบันที่เปิดสอน เรียนตั้งแต่เริ่มต้นสเก็ตช์รูปใหม่เลยครับ
แล้วทำไมถึงเบนมาทางสายกราฟฟิกดีไซน์ได้
จุดเริ่มต้นมาจากการที่ผมไปเรียนคอร์สกราฟฟิกดีไซน์ครับ ตอนนั้นลงคอร์สไว้ 3 เดือน แต่พอเรียนไปได้ 3 ครั้ง ทางสถาบันเห็นว่าเราเรียนรู้ได้ไว เลยชักชวนให้ไปทำงานร้านกราฟฟิกดีไซน์ และก็ได้ไปเรียนรู้งานจริงที่โน่นเลย นั่นคืองานแรกครับ ทำได้ประมาณ 1 ปี หลังจากน้นก็มีโอกาสได้เข้าทำงานในบริษัทที่ทำงานทางด้านแอนิเมชั่น ซึ่งตอนนั้นเราทำไม่เป็นเลย คือจะไปสมัครด้านออกแบบตัวละครอย่างเดียว แต่บริษัทนี้ก็ลองให้โอกาสได้เรียนรู้งานด้านอื่นๆ ที่เราไม่เคยได้ทำ เช่น วาดสตอรี่บอร์ด อนิเมทตัวละคร 3D ออกแบบคาแรกเตอร์ดีไซน์ ปั้นโมเดล 3D งานตัดต่อ พวกนี้เป็นต้น ซึ่งเราก็สามารถเรียนรู้และทำได้ แล้วก็ทำบริษัทนี้ได้ประมาณ 2 ปีครับ เนื่องจากบริษัทเกิดปัญหาบางอย่าง ก็เลยออกจากงานมา
ช่วงน้นหลังที่ลาออกจากงานมา ก็หางานที่อื่นไปเรื่อยๆ ครับ สมัครทิ้งไว้หลายที่ แต่ก็ไม่มีคนรับ ทำให้ช่วงนั้นเลยลองตั้งเพจบน Facebook ขึ้นมาเพื่อหางาน โดยตั้งชื่อเพจว่า PinzaStudio ครับ และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นฟรีแลนซ์เต็มตัวของผมเลยก็ว่าได้
ช่วยเล่าประสบการณ์หลังจากมาเป็นฟรีแลนซ์ให้เราฟังหน่อย
ผมเริ่มต้นจากงานเล็กๆ ก่อนครับ เช่น งานวาดรูปล้อเลียนเป็นการ์ตูน โดยให้ลูกค้าระบุมาว่าต้องการแบบไหน คือผมสามารถวาดได้ค่อนข้างหลากหลายแนว โดยให้ลูกค้าหาแบบที่ต้องการมาจากในอินเตอร์เน็ต เนื่องจากความต้องการของลูกค้ามีหลากหลาย เราต้องตอบโจทย์ให้ได้ว่าลูกค้าต้องการอะไร ปัญหาก็มีอยู่บ้างเล็กน้อยเช่น ลูกค้าต้องการงานที่น่ารักๆ เราก็วาดในแบบของเราปกติ แต่วาดไปมีแก้ อะเราก็แก้ให้ จนตัวผมเองคิดว่างานที่ออกมานั้นไม่สวยเลย แต่ลูกค้าชอบมาก เราก็ต้องจบงานทั้งที่ออกมาแบบนั้น (ผมเชื่อว่าหลายคนก็เจอ)
ปัญหาต่อมาก็คือ "ความไว้วางใจจากลูกค้าใหม่" มีลูกค้าหลายท่านสอบถามมา แล้วบอกให้เราวาดรูปส่งมาให้ดูก่อน ด้วยความที่ตอนนั้นเรายังใหม่และกลัวไม่ได้ลูกค้าด้วย เราก็ทำให้ แต่พอส่งไป ลูกค้าไม่ตอบกลับแล้วก็หายไปเลย เหมือนให้เราวาดให้ฟรีๆ
"ความไว้วางใจจากลูกค้าเก่า" ช่วงแรกๆ จะไม่มีปัญหาอะไรเลย และให้เรารับทำงานให้บ่อยมาก จนสนิทกัน ช่วงหลังๆ ให้เราวาดให้ก่อนเดี๋ยวโอนเงินให้ทีหลัง ซึ่งเราเห็นว่าลูกค้าคนนี้ไม่เคยเบี้ยวค่าจ้าง เราก็เลยทำให้ ซึ่งโปรเจคนี้ค่อนข้างใหญ่พอสมควร พอทำได้ประมาณเกือบ 50% เราขอค่าจ้างบางส่วนไป แต่เขาบอกว่ายังไม่มีเงินจ่าย ให้รอเดือนหน้า เราเลยบอกเขาว่างั้นขอหยุดโปรเจคไว้แค่นี้ก่อน ถ้าเราได้ค่าจ้างส่วนนี้มาแล้วถึงจะทำต่อให้ ลูกค้าก็โอเค แต่พอในเวลาต่อมา เมื่อถึงกำหนดที่ลูกค้าบอกว่าจะจ่ายให้กับเรา ก็ไม่สามารถติดต่อได้ และหายไปในที่สุด นี่เป็นปัญหาที่เครียดมากพอสมควร
การแก้ปัญหาสำหรับผมก็คือ ควรจะมีค่ามัดจำก่อนเริ่มงาน และใส่ลายน้ำทุกครั้ง จะส่งงานก็ต่อเมื่อชำระเงินครบ 100% เท่านั้น ไม่ว่าจะลูกค้าหน้าใหม่หรือหน้าเก่า และยิ่งงานไหนที่เป็นโปรเจคใหญ่ๆ ควรทำสัญญากำกับไว้ด้วยทุกครั้งครับ
คิดว่าอะไรคือสิ่งสำคัญสำหรับการเป็นฟรีแลนซ์
เวลา และความรับผิดชอบในงาน คือหัวใจสำคัญที่ฟรีแลนซ์ทุกคนควรจะมีครับ
หลังจากใช้งาน FreelanceBay มาสักระยะหนึ่งแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้าง
สำหรับผมแล้ว เว็บไซต์ FreelanceBay ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเริ่มเป็นฟรีแลนซ์ที่ดีมากๆ โดยที่เราสามารถโฟกัสงานได้อย่างเต็มที่ ทำให้เราสามารถหางานได้มากขึ้น และระบบยืนยันตัวตน เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของตัวฟรีแลนซ์และผู้ว่าจ้าง และช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ว่าจ้างในการตัดสินใจจ้างเราครับ เพราะตัวผมเองก็มีผู้ว่าจ้างจำนวนไม่น้อยที่ติดต่อมาจาก FreelanceBay เหมือนกันครับ
ตัวอย่างผลงาน
ชมผลงานคุณปิยพนธ์ (Pinza Studio) เพิ่มเติมได้ที่ : https://www.freelancebay.com/121837.html
อ่านบทความอื่นๆ ของ FreelanceBay
ติดตาม FreelanceBay จากช่องทางต่างๆ : Facebook | Twitter | Google+