6 วิธีสร้างเพื่อนใหม่สำหรับฟรีแลนซ์
4 พฤศจิกายน 2559

 

อาจเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายๆ คนในการเป็นฟรีแลนซ์ ... จริงๆ ก็ยากสำหรับทุกอาชีพแหละ กับการทำความรู้จักกับคนแปลกหน้าที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน โดยเฉพาะกับการเป็นฟรีแลนซ์ด้วยแล้ว ที่คอนเนคชั่นเป็นเรื่องสำคัญยิ่งกว่าอะไร ถือเป็นทรัพย์สินอันล้ำค่าเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นจุดเริ่มต้นในการหาลูกค้า อันนำมาซึ่งรายได้ในการเลี้ยงปากท้องของเรานั่นเอง และก็เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนจะตั้งกำแพงใส่คนแปลกหน้า ฉันไม่รู้จักเธอ เธอไม่รู้จักฉัน เราไม่รู้จักกัน จะมายุ่งกันทำไม

 

แต่ถ้าย้อนกลับไปสมัยเด็กๆ ตอนที่เรายังไม่มีเพื่อน ทุกคนต่างก็เคยเป็นคนแปลกหน้ากันมาก่อน ทำไมเราถึงรู้จักกันได้ และรักษาความสัมพันธ์มาจนถึงปัจจุบันก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ แต่ทำไมพอโตขึ้น เราถึงไม่กล้าทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ เรากำลังติดกรอบอะไรอยู่หรือเปล่า? ถ้าใช่ ลองมาเริ่มต้นกันใหม่ ด้วย 6 วิธี ในการสร้างเพื่อนใหม่ ที่ทั้งง่ายและสนุก ที่ FreelanceBay อยากให้คุณลองเอาไปใช้กันดู เผื่อวันไหนมีโอกาสได้ไปงานสัมมนา หรืองาน Meet Up อะไรทำนองนี้ จะได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ ดูบ้าง

 

1. อยู่กับ "ปัจจุบัน"

การที่เราไม่กล้าเข้าไปทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ โดยส่วนมากแล้วเป็นเพราะเราติดกับดักความคิดของตัวเอง ชอบคิดล่วงหน้า มโนไปเองอยู่บ่อย ไม่ว่าจะเป็นความคิดที่ว่า เขาจะคิดยังไงกับเรานะ? เราจะพูดอะไรโง่ๆ ออกไปรึเปล่า? ถ้าเขาไม่อยากคุยกับเราล่ะ? ไม่เอาอะ เราไม่ชอบคุยกับคน หรืออะไรก็ตามแต่ สุดท้ายเลยปล่อยตัวเองอยู่เงียบๆ ไม่เข้าไปสุงสิงทำความรู้จักกับใครซะงั้น

 

ก่อนอื่น ทำใจเย็นๆ นิ่งๆ สงบๆ ก่อน ค่อยๆ สูดลมหายใจเข้า - ออก ประมาณสัก 5 รอบ การค่อยๆ หายใจเข้า - ออก จะช่วยให้จิตใจคุณสงบลง ช่วยนำพาให้ความคิดเหล่านั้นออกไปจากหัวได้ และดึงตัวคุณกลับมาที่ปัจจุบันได้ในที่สุด เพราะบางทีสิ่งที่เราคิด พอถึงเวลาจริงๆ แล้วมันอาจไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้ เราแค่มโนไปเองจนเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วมีความเป็นไปได้ตั้งเยอะแยะ มันอาจจะดีก็ได้ ใครจะรู้ ไม่เชื่อก็ลองดู

 

2. ให้ความสำคัญกับคู่สนทนา

สิ่งหนึ่งที่หลายๆ คนมักจะพลาดเวลาเริ่มต้นทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ ก็คือ เราชอบพูดเรื่องของตัวเองมากจนเกินไป หรือพยายามแสดงตัวว่ารู้ไปหมดทุกเรื่อง ถามว่าคู่สนทนาคุณอยากรู้มั้ย แรกๆ อาจจะใช่ หลังๆ ก็คงเบื่อหน่าย เอือมระอา เมื่อไหร่เจ้านี่จะหยุดพูดสักที ก ฯลฯ แทนที่จะได้สร้างเพื่อนใหม่ กลายเป็นสร้างความรำคาญให้เขาแทน

 

ทางที่ดี คุณควรเล่าเรื่องของคุณแต่พอดี และเปิดโอกาสให้คู่สนทนาได้เล่าเรื่องของเขาบ้าง เพราะใครๆ ต่างก็อยากเล่าเรื่องของตัวเองทั้งนั้น ยิ่งถ้าคุณให้ความสนใจกับเรื่องของเขา รับรองว่าเขาต้องชอบคุณแน่นอน

 

3. ทำให้การสนทนาเป็นเรื่องง่าย

การสร้างบทสนทนาด้วยคำถามปลายเปิด อาจทำให้คู่สนทนาตอบคำถามกลับมามากกว่าคำหรือสองคำก็จริง แต่ในทางกลับกัน มันอาจสร้างความอึดอัดให้กับคู่สนทนาได้ รวมถึงตัวคุณเองซึ่งต้องคอยคิดคำถามอยู่ตลอดเวลา วิธีง่ายๆ คือ ให้คู่สนทนาพูดเกี่ยวกับเรื่องที่ตัวเองชอบ เรื่องที่เขาสนใจ เช่นเรื่องของตัวเอง หรือคำถามง่ายๆ อย่างเช่น คุณสนใจเรื่องอะไรเป็นพิเศษ? สำหรับคุณแล้ว อะไรคือเรื่องที่น่าตื่นเต้นในตอนนี้? เป็นต้น

 

4. เน้นการสร้างสายสัมพันธ์

ถ้าคู่สนทนาของคุณไม่ได้เป็นคนประเภทหลังเขา หรือเป็นคนปิดตัว ไม่ค่อยเข้าสังคมกับชาวบ้านล่ะก็ โดยปกติแล้วแต่ละคนมักจะมีคนรู้จัก (ตั้งแต่เกิดจนปัจจุบัน) ประมาณ 100 คนเป็นอย่างน้อย แทนที่จะคิดว่าการสร้างเครือข่าย ทำความรู้จักกับผู้คน เพื่อสร้างคอนเนคชั่นของคุณเพิ่มขึ้น ลองเปลี่ยนความคิดเป็น เพื่อทำความรู้จัก และสร้างสายสัมพันธ์ฉันมิตรแทน โดยเน้นที่คุณภาพ ไม่ใช่ปริมาณ เพราะหากคุณได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ 5 คนที่เจ๋งๆ พวกเขาเหล่านั้นจะพาคุณไปหาคนเจ๋งๆ แบบเขาได้อีกมากมายเชียวล่ะ

 

5. หาทางติดต่อเขาในอนาคต

ก่อนที่คุณและคู่สนทนาจะแยกย้ายกลับบ้าน อย่าลืมขอนามบัตรเก็บเอาไว้ (รวมถึงแลกนามบัตรของคุณไว้กับเขาด้วย) เพราะส่วนมากหลังจากแยกย้ายกันแล้ว มีคนจำนวนไม่มากนักที่จะยังคงติดต่อสานสัมพันธ์กันไว้ ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่ง โดยหลังจากที่คุณได้พูดคุยกับเขาแล้ว จะทำให้คุณได้รู้จักตัวตนเขามากยิ่งขึ้น อย่างน้อยก็ควรรู้ว่าเขาชอบอะไร หลังจากที่แยกย้ายกัน คุณอาจติดต่อไปหาเขาผ่านทางอีเมล อย่าเพิ่งส่ง Portfolio ไป ให้ส่งสิ่งที่เขาชอบไปหา พร้อมอธิบายเล็กน้อยว่าทำไมเขาน่าจะชอบ ไม่จำเป็นต้องทิ้งท้ายหรือแนบเว็บไซต์ของคุณไปด้วย มันจะดูขายตรงเกินไปหน่อย แค่ลายเซ็นอีเมลของคุณก็เพียงพอแล้ว คนที่เขาสนใจคุณจริงๆ เขาจะเลื่อนไปดูเอง ไม่ต้องห่วง

 

6. เป็นฝ่าย "ให้" แทนที่จะ "รับ"

พยายามหาทางช่วยเหลืออีกฝ่ายเท่าที่ทำได้ แทนที่จะนำเสนอแต่บริการของคุณอย่างเดียว ถ้าคุณเป็นฝ่ายให้จนมากพอ เขาจะเป็นฝ่ายถามคุณเองว่าคุณมีอะไรให้เขาช่วยบ้างไหม หรืออาจแนะนำคนที่อาจช่วยคุณได้แทน หรืออาจเรียกใช้บริการจากคุณก็ได้

 

อย่ากลัวที่จะทำความรู้จักกับคนใหม่ๆ เพราะอย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้น ก่อนที่คน 2 คนจะได้มารู้จัก จนเป็นเพื่อนกัน ต่างก็เคยเป็นคนแปลกหน้ามาก่อนทั้งนั้น แม้คนที่คุณทำความรู้จักใหม่จะไม่ได้นำงานมาให้คุณทำ แต่อย่างน้อยคุณก็ได้รู้จักกับคนใหม่ๆ เพื่อนใหม่ๆ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

กำลังเชื่อมต่อ