เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (14 ม.ค. 2017) SpaceX (Space Exploration Technology Corporation)  บริษัทผู้ให้บริการธุรกิจการขนส่งทางอวกาศ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการปล่อยจรวด Falcon 9 ที่ฐานทัพอากาศ Vandenberg รัฐแคลิฟอร์เนีย และประสบความสำเร็จในการลงจอดบนเรือในมหาสมุทรแปซิฟิก นับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาชิ้นส่วนจรวดเพื่อนำกลับมาใช้ซ้ำ หลังจากการปล่อยจรวดในครั้งที่แล้วในเดือนกันยายน 2016 ที่เกิดระเบิดขึ้นระหว่างการทดสอบ

ผลจากการประสบความสำเร็นในครั้งนี้ SpaceX คาดหวังว่าจะสามารถลดต้นทุนการเดินทางในอวกาศลงได้ ด้วยการพัฒนาระบบกู้คืนและนำจรวดกลับมาใช้ใหม่ที่เชื่อถือได้ สำหรับภารกิจต่อๆ ไป

สำหรับจรวด Falcon 9 ที่ได้ทดสอบในครั้งนี้ ได้ถูกปล่อยขึ้นในเวลา 9.54 น. ตามเวลามาตรฐานแปซิฟิก โดยนำดาวเทียมสื่อสารจำนวน 10 ดวง ขึ้นสู่วงโคจรของโลก ก่อนที่จะเสร็จสิ้นภารกิจและกลับลงมาที่พื้นโลก โดยชิ้นส่วนแรกของจรวดได้ลงจอดบนเรือหลังจากถูกปล่อยขึ้นสู่วงโคจรประมาณ 8 นาที

เมื่อปีที่ผ่านมา จรวด Falcon 9 ได้ระเบิดที่ฐานปล่อยจรวดที่รัฐฟลอริดาระหว่างการทดสอบ โดยนักวิจัยได้พบว่า สาเหตุของการระเบิดนั้นเกิดจากถังบรรจุฮีเลียมนั้นได้เกิดการระเบิดขึ้นภายในถังบรรจุออกซิเจนเหลว และทำให้เกิดการระเบิดในที่สุด

สำหรับจรวดที่ SpaceX ได้ปล่อยขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี้ ได้มีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยหลังจากอุบัติเหตุในครั้งก่อนที่เกิดขึ้น ด้วยการออกแบบถังบรรจุก๊าซฮีเลียมใหม่ รวมถึงขั้นตอนในการบรรจุเชื้อเพลิงเพื่อลดอันตรายให้น้อยที่สุดอีกด้วย

เรียกได้ว่าเป็นก้าวสำคัญสำหรับเทคโนโลยีการขนส่งทางอวกาศ ที่นับวันจะยิ่งมีต้นทุนที่มีราคาถูกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แม้จะเป็นเพียงก้าวเล็กๆ แต่ก็ยิ่งใหญ่ และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการพัฒนาขั้นตอนต่อๆ ไปในอนาคต ไม่แน่ว่าเราอาจได้ทันเห็นการเดินทางข้ามไปมาระหว่างโลกและดาวอังคารเป็นเรื่องปกติ ในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่ก็เป็นได้ (แต่จะได้เห็นเมื่อไหร่ก็ต้องรอดูกันต่อไป)