Google ได้เปิดตัว App Maker สำหรับนักพัฒนาแอปพลิเคชั่น ซึ่งเป็นโซลูชั่นใหม่สำหรับพัฒนาแอปพลิเคชั่นแบบ Low-code และ drag-and-drop เช่นเดียวกับคู่แข่งอย่าง Microsoft รวมถึง Startup หลายๆ ราย โดยตัว App Maker นี้ จะทำให้การพัฒนาแอปพลิเคชั่นนั้นเป็นไปอย่างง่ายดาย ทำให้ใครก็ตามสามารถเป็นผู้พัฒนาแอปฯ ได้ โดยการสร้างแอปฯ นั้นมีจุดประสงค์เพื่อใช้ในองค์กรโดยเฉพาะ
บริการใหม่นี้สามารถใช้งานได้บนคลาวด์ และมีการพัฒนาแบบ drag-and-drop ซึ่งอนุญาตให้ผู้พัฒนาสามารถสร้าง User Interface และใช้ข้อมูลร่วมกับ G Suite application ตัวอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น Google Maps, Contacts และ Group ทั้งยังสามารถใช้ร่วมกับบริการอื่นๆ ที่มี API ได้อีกด้วย ซึ่งแอปพลิเคชั่นต่างๆ สามารถทำงานบนโครงสร้างเดียวกันบน G suite ได้ และแอดมินฝ่ายไอทียังสามารถจัดการได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกับการใช้ Gmail, Google Drive และแอปพลิเคชั่นอื่นๆ
โดยทั่วไปแล้ว การใช้งานแอปพลิเคชั่นเหล่านี้มักจะในการแก้ปัญหาเรื่องการตรวจสอบเวลา หรือตรวจสอบคำสั่งซื้อและสต๊อกสินค้า ซึ่งเป็นปัญหาพื้นฐานของบริษัท และสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้ด้วยการสร้างแอปพลิเคชั่นง่ายๆ ขึ้นมาจัดการกับปัญหาเหล่านั้น ซึ่งข้อได้เปรียบของ App Maker ทาง Google ได้ระบุว่าด้วยการใช้งาน App Maker นี้ จะทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ในการประมวลผล ทั้งยังทำให้ผู้ใช้สามารถพัฒนาแอปพลิเคชั่นเพื่อจัดการกับปัญหาแบบเฉพาะเจาะจงตามที่ต้องการ โดยที่ไม่จำเป็นต้องถึงมือนักพัฒนาแอปฯ มืออาชีพ และสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการใช้งานในระดับที่ลึกลงไป ก็สามารถใช้งาน built-in script ที่ติดมากับตัวแอปพลิเคชั่นได้เช่นเดียวกัน
นอกจากการเปิดตัว App Maker แล้ว Google ยังได้เปิดตัวแอปพลิเคชั่นสำหรับองค์กรตัวอื่นๆ ที่สามารถใช้งานร่วมกับ G Suite ได้ ไม่ว่าจะเป็น Virtu, LumApps, DocuSign, Freshdesk, Zoho, Zero และ Asana ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นที่สามารถทำงานร่วมกับ G Suite ได้เป็นอย่างดี
ถือเป็นเรื่องดีที่ในอนาคต การพัฒนาแอปพลิเคชั่นสำหรับองค์กรจะเป็นเรื่องที่ง่าย และใครก็สามารถทำได้ แต่สำหรับ App Maker แล้ว อาจนำมาใช้เพื่อสร้างแอปพลิเคชั่นในการจัดการปัญหาขององค์กรได้เพียงบางเรื่องเท่านั้น ซึ่งต้องรอดูกันต่อไปยาวๆ