ตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป การลงทะเบียนซิมการ์ดเพื่อเปิดใช้งานเลขหมายใหม่จะต้องสแกนลายนิ้วมือเพื่อยืนยันตัวตนก่อนใช้งานด้วย สืบเนื่องจากแนวคิดของกสทช. ที่ได้เสนอไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2559 โดยกำหนดให้ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือรายต่างๆ ทำการเก็บลายนิ้วมือของผู้ใช้ก่อนเปิดใช้งานเลขหมาย เพื่อป้องกันการโจรกรรมทางออนไลน์ และเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานระบบธนาคารบนมือถือ (Mobile Banking) อีกด้วย
โดยก่อนหน้านี้ ผู้ให้บริการเครื่อข่ายฯ ต่างยื่นอุทรณ์ต่อศาล เนื่องจากการลงทะเบียนลายนิ้วมือนั้นจะเป็นการเพิ่มต้นทุนการให้บริการที่นอกเหนือจากสัมปทานคลื่นโทรศัพท์ แต่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช. ได้ยื่นค้านอุทรณ์ดังกล่าว โดยระบุว่าผลประโยชน์ของผู้บริโภคนั้นเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากกว่า หากมีการละเมิดใดๆ เกิดขึ้น ผู้ให้บริการจะต้องถูกลงโทษ ตั้งแต่การจำกัดการให้บริการเลขหมายใหม่ ไปจนถึงการเพิกถอนใบอนุญาต เป็นต้น
สำหรับผู้ใช้งานจำนวน 106 ล้านเลขหมายที่ใช้บริการอยู่ในปัจจุบัน จะยังไม่ถูกบังคับให้ลงทะเบียนอุปกรณ์ โดยคาดว่าหลังจากที่ได้มีการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวแล้ว เลขหมายต่างๆ จะถูกลงทะเบียนลายนิ้วมือครบทั้งหมดภายในระยะเวลา 3 - 7 ปี ขึ้นอยู่กับการปรับปรุงรูปแบบการให้บริการ และการเปลี่ยนรุ่นของสมาร์ทโฟน
ด้วยการลงทะเบียนลายนิ้วมือนี้ คาดว่าจะทำให้ผู้ให้บริการฯ สามารถลดต้นทุนการลงทะเบียนได้ราว 1,000 - 2,000 บาทต่อเลขหมาย จากค่าประกอบการ USO (Universal Service Obligation) ที่ต้องจ่ายให้กับกสทช. จำนวน 5% เป็นประจำทุกปี
อาจจะดูเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากขึ้นในอนาคตสำหรับการลงทะเบียนซิมการ์ด ที่ต้องมีการสแกนลายนิ้วมือเพิ่มขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวนั้น ก็เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ ในการทำธุรกรรมต่างๆ ผ่านระบบออนไลน์ ที่ในปัจจุบันเริ่มเป็นทิ่นิยมมากยิ่งขึ้น ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวงได้ง่ายนั่นเอง