คุณรู้สึกมีแรงจูงใจในที่ทำงานมากที่สุดเมื่อไร? กลับจากวันหยุดยาวหรือไม่? ในวันจันทร์หลังจากวันอาทิตย์ที่ดีกับเพื่อน? หรือสุดสัปดาห์ที่คุณได้ไปนั่งพักผ่อนในร้านที่ชอบ? เมื่อคุณได้รับคำชมจากเจ้านายของคุณ หรือมีการประชุมที่มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะ?
ผลสำรวจทางวิทยาศาสตร์บอกว่า คนที่มีความสุขมากขึ้น จะสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ดีกว่ามากขึ้น จากผลสำรวจในปีการศึกษา 2015 ที่มหาวิทยาลัย Warwick ในอังกฤษพบว่า พวกเขามีประสิทธิผลมากกว่า 12% โดยเฉลี่ยมากกว่าบุคคลทั่วไป จากการทดสอบได้นำผู้เข้าร่วมทดสอบแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ผู้เข้าร่วมการศึกษากลุ่มแรกได้ดูภาพยนตร์ตลก หรือรับช็อคโกแลต เครื่องดื่ม และผลไม้ ในระหว่างการทดลอง ในขณะที่อีกกลุ่มจะถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมความรุนแรงในครอบครัว เช่น การฆ่ากรรม เพื่อดูว่าอารมณ์มีส่วนร่วมในการสร้างประสิทธิผลสิ่งต่างๆ
ในการศึกษาของ Queens School of Business และ Gallup Organization ยังบอกอีกว่า แรงงานที่ถูกปลดออก มีการขาดงานที่สูงขึ้น 37% อุบัติเหตุเพิ่มขึ้น 49% และมีข้อผิดพลาด ข้อบกพร่องมากกว่า 60% ในองค์กรที่มีคะแนนการมีส่วนร่วมของพนักงานต่ำ พวกเขามีการทำกำไรที่ต่ำกว่า 18% ความสามารถในการทำกำไรลดลง 16% การเติบโตของตำแหน่งงานที่ลดลง 37% และราคาหุ้นที่ลดลง 65% ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
นี่หมายความว่าอะไรสำหรับคุณ? สิ่งสำคัญคือไม่ใช่แค่ชอบงานของคุณเท่านั้น แต่เพื่อให้คุณมีความสุข และการมีความสุขไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับผลตอบแทน หรือประโยชน์หรือเงิน แต่เกี่ยวกับการหางานที่ทำให้คุณรู้สึกว่าได้รับการเติมเต็มทุกวัน และเหมือนว่าคุณกำลังมีส่วนร่วมกับสิ่งที่ใหญ่กว่าตัวคุณเอง
ในทางตรงกันข้ามก็หมายความว่า บริษัทฯ ควรจะลงทุนในความสุขของพนักงานมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการให้กำลังใจ ตารางเวลาที่ยืดหยุ่น หรือกิจกรรมสานความสัมพันธ์ระหว่างทีม และสิ่งที่สำคัญคือมีการมีธรรมภิบาลในการบริหาร หากวางแผนที่จะทำกำไร และยั่งยืนในระยะยาว
ทั้งสองวิธีนี้ คือความสุขและความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่สำหรับทั้งบริษัท และตัวพนักงานเอง และหากเราตั้งเป้าหมายของเราไว้ เราอาจรู้สึกประหลาดใจกับผลที่เกิดขึ้น พร้อมที่จะเริ่มค้นหาความสุขในที่ทำงานของคุณหรือยัง?
