อาชีพฟรีแลนซ์เป็นงานที่หลายคนเลือกที่จะทำเป็นอาชีพหลัก และบางคนก็ทำเป็นงานเสริม เพราะฟรีแลนซ์นั้นทำให้คุณมีเวลาให้กับครอบครัว และใช้ชีวิตของคุณได้มากกว่าพนักงานกินเดือน แต่แน่นอนว่า การที่คุณนั่งทำงานอยู่กับบ้านคุณจะไม่ได้ค่อยได้มีโอกาสพบปะเพื่อนฝูง หรือพูดคุยกับผู้คนมากนัก และบางวันคุณอาจนั่งติดเก้าอี้เป็นเวลาหลายชั่วโมง หรือข้ามวันกันเลยทีเดียว บางครั้งการที่คุณไม่ค่อยได้พบเจอสิ่งใหม่ๆ หรือเปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน อาจทำให้ความคิดสร้างสรรค์ของคุณลดน้อยลง เราจะมาดู 10 วิธีสร้างแรงบันดาลใจให้กับความคิดสร้างสรรค์กัน
1. ทำงานนอกบ้าน
ถ้าหากคุณรู้สึกว่าการนั่งทำงานที่เห็นแต่กำแพง มันออกจะดูซ้ำๆ เดิมๆ ไป ทำไมไม่ลองออกมาทำงานนอกบ้านดู หาสถานที่สงบๆ คนไม่พลุกพล่าน อย่างเช่น สวนสาธารณะ ห้องสมุด หรือจะไปเที่ยวพักผ่อนชายทะเล พร้อมกับเอางานไปทำด้วยก็ไม่เลวเลยทีเดียว เพราะนอกจากคุณจะได้เปลี่ยนบรรยากาศแล้ว ยังได้รับอากาศสดชื่นๆ เพิ่มไฟให้กับการทำงานของคุณได้อีกด้วย
2. ลงมือทำอย่างอื่นบ้าง
นอกจากการทำงานที่มือคุณจะติดกับแป้นพิมพ์อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวันแล้ว น่าจะลองหาอะไรใหม่ๆ ที่ปกติแล้วคุณอาจไม่เคย หรือไม่ค่อยได้ทำดูบ้าง อย่างเช่น ทำอาหาร ปลูกต้นไม้ แม้กระทั่งทำความสะอาดบ้าน แค่เพียงคุณพักผ่อนอิริยาบทเพียงเล็กน้อย เพื่อให้สมองของคุณได้ผ่อนคลาย บางครั้งการทำสิ่งเหล่านี้อาจสร้างความคิดใหม่ๆ ให้กับคุณได้เช่นเดียวกัน
3. ทำโปรเจคส่วนตัว
แน่นอนว่าทุกคนย่อมมีโครงการ หรือสิ่งที่อยากทำอยู่ในหัวมากมาย ลองลงมือทำสักอย่างสองอย่าง เพราะไม่มีอะไรเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ได้ นอกจากการเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ คุณอาจลองตกแต่งห้องทำงานในสไตล์ของคุณ ซึ่งนอกจากจะทำให้คุณได้เปลี่ยนบรรยากาศแล้ว คุณยังได้นั่งทำงานอยู่ในสถานที่ที่เป็นของคุณ
4. ออกกำลังกาย
ทุกคนทราบดีถึงข้อดีของการออกกำลังกายอยู่แล้ว แต่หลายคนมักจะอ้างว่าไม่มีเวลา ไม่พร้อมบ้าง ถ้าหากคุณสามารถแบ่งเวลามาออกกำลังสักวันละ 20-30 นาที นอกจากคุณจะได้ร่างกายที่แข็งแรงแล้ว การออกกำลังกายยังทำให้คุณสมองปลอดโปร่ง รู้ไหมว่าการมีสุขภาพร่างกายที่ดี จะช่วยทำให้คุณดูมีชีวิตชีวา พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ได้ดียิ่งขึ้น
5. หยุดคิด และลองถามตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้น?
บางครั้งคุณอาจต้องลองอยู่กับตัวเอง และลองคิดทบทวนดูว่าเกิดอะไรขึ้น ลองถามตัวเองดูว่าแรงบันดาลใจในความคิดของคุณหายไปไหน? มีอะไรรบกวนจิตใจอยู่หรือเปล่า? หรือมีปัญหาเรื่องส่วนตัวในชีวิต? คุณต้องคิดไว้เสมอว่า คนเราทำผิดพลาดกันได้ อยู่ที่เราคิดจะแก้ไขปรับปรุงมันหรือเปล่า เมื่อคุณหาต้นตอของปัญหาได้ คุณจะสามารถแก้มันได้ตรงจุด ซึ่งแน่นอนว่าปัญหาอาจไม่ได้แก้ไขได้ในทันที แต่อย่างน้อยๆ มันจะช่วยให้สถานการณ์ค่อยๆ ดีขึ้น ทำให้คุณกลับมามีสมาธิในการทำงานมากขึ้น
6. ฝึกทำสมาธิ
การทำสมาธิเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการผ่อนคลาย ลดความตึงเครียด ลองหลับตาและกำหนดลมหายใจ ให้รู้สึกถึงลมที่เคลื่อนผ่านร่างกายคุณไป ในตอนแรกคุณอาจรู้สึกว่าทำได้ยาก แต่เมื่อคุณมีสมาธิจดจ่ออยู่กับลมหายใจของคุณแล้ว คุณจะรู้ว่ามันช่วยได้ดีจริงๆ
7. งีบบ้าง
เมื่อไหร่ที่คุณรู้สึกว่าสมองตันเกินที่จะคิดงานออกมาได้แล้วล่ะก็ คุณควรจะลองงีบดูสักพัก งีบในที่นี้ไม่ใช่นอนแบบจริงจังจนไม่ได้งานอะไรออกมา การหลับพักผ่อนสมองสัก 15 นาที จะช่วยให้สมองคุณได้พักเบรคจากอาการอ่อนล้า หลังจากที่คุณอาจตรากตรำทำงานมาตลอดทั้งคืน เพื่อให้ร่างกายและสมองได้ฟื้นตัวกลับสู่ความคิดอันโลดแล่น
8. ทำงานร่วมกับผู้อื่น
การทำงานไม่ว่าจะงานใดๆ ย่อมมีปัญหาเกิดขึ้นได้เสมอ หากคุณมีงานหรือโครงการที่พบปัญหาที่ยากเกินกว่าคุณจะแก้ไขได้คนเดียว การขอคำแนะนำ คำปรึกษา ขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ตลอดจนการทำงานร่วมกับผู้อื่น จะช่วยให้งานเป็นไปอย่างราบรื่น ดังสุภาษิตที่ว่า สองคนดีกว่าหัวเดียว
9. สร้างน้ำหล่อเลี้ยงจิตใจ
การทำงานฟรีแลนซ์เป็นงานที่ส่วนใหญ่คุณจะต้องนั่งทำงานอยู่กับบ้านแทบตลอดเวลา อาจทำให้คุณไม่ค่อยได้มีเวลาออกไปพบปะครอบครัว เพื่อนฝูง เพราะต้องทำงานแข่งกับเดทไลน์ลูกค้าที่จี้อย่างกับไฟลน จนบางวันคุณแทบจะไม่ได้พูดคุยกับใครเลย หากคุณเป็นมนุษย์ที่สามารถอยู่ตัวคนเดียวได้อย่างสบายๆ คงจะไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่ถ้าคุณเป็นมนุษย์ประเภทขี้เหงา อยากเมาท์กับใครบ้าง ถึงเวลาใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ คุณอาจ Skype คุยกับครอบครัว เพื่อนฝูง หรือสร้างกลุ่มเล็กๆ เอาไว้พูดคุยแลกเปลี่ยน คุณจะได้เมาท์มอยกับเพื่อนๆ เพื่อคลายเครียดได้บ้าง แต่อย่าเมาท์จนไม่ได้ทำงานก็พอ
10. หัวเราะ
สิ่งที่คลายเครียดได้ดีที่สุดของคนเราบนโลกใบนี้ นั่นก็คือการหัวเราะ ไม่ว่าคุณจะหัวเราะเรื่องอะไร ไร้สาระแค่ไหนก็ตาม มันช่วยให้บรรยากาศ หรือสิ่งที่อยู่ภายในจิตใจดีขึ้น และการหัวเราะยังช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ได้อีกด้วยนะ ไม่เชื่อคุณลองหัวเราะดู แล้วคุณจะสามารถทำอะไรบ้าๆ ที่คุณไม่คิดว่าจะทำได้อีกเยอะ