12 สิ่งที่คนสำเร็จมักจะทำใน 10 นาทีสุดท้ายก่อนเลิกงาน
22 พฤศจิกายน 2559

 

โดยมากแล้ว ช่วงเวลา 10 นาทีสุดท้ายก่อนกลับบ้าน สำหรับคนทำงานประจำหรือทำงานออฟฟิศอาจจะจ้องมองนาฬิกา และนั่งนับเวลาถอยหลังให้ 10 นาทีนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพื่อจะได้รีบๆ กลับบ้านเสียที หรือนั่งจมอยู่กับงานจนถึงเวลาเลิก พร้อมแบกสัมภาระกลับบ้านโดยที่ไม่บอกลาเพื่อนร่วมงาน หากพฤติกรรมของคุณยังเข้าข่าย 2 ข้อข้างต้นนี้ ถึงเวลาแล้วที่เราควรจะมานั่งทบทวนกันสักเล็กน้อยเพื่อดูว่าเราได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าหรือไม่ เพราะสำหรับคนสำเร็จแล้ว เวลาทุกนาทีมีค่าสำหรับพวกเขาเสมอ

 

Michael Kerr นักธุรกิจและผู้เขียนหนังสือ The Humor Advantage ระบุว่า "การเสร็จสิ้นการทำงานในแต่ละวันนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เนื่องจากมันสามารถกำหนดอารมณ์ของคุณสำหรับเวลาที่เหลือในวันนั้นๆ ได้ โดยอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ส่วนบุคคล, ระดับความสุขโดยรวม รวมถึงคุณภาพการนอนหลับในคืนนั้น ซึ่งเป็นตัวกำหนดคุณภาพของการทำงานในวันต่อไปอีกด้วย"

 

นอกจากนี้แล้ว Lynn Taylor ผู้เขียนหนังสือ Tame Your Terrible Office Tyrant: How to Manage Childish Boss Behavior and Thrive in Your Job ยังกล่าวเสริมอีกว่า "คนที่ประสบความสำเร็จส่วนมากมักจะมีงานที่ต้องทำเป็นประจำในแต่ละวันอยู่แล้ว และพวกเขามักจะหลีกเลี่ยงที่จะอู้งาน เพื่อให้งานเหล่านั้นเสร็จสิ้น พร้อมที่จะจดจ่อกับงานที่เข้ามาในวันใหม่อยู่เสมอ ทั้งงานที่ต้องทำเป็นประจำ และงานที่เข้ามาโดยบังเอิญ"

 

และนี่คือ 12 สิ่งที่คนสำเร็จมักจะทำก่อนเลิกงานใน 10 นาทีสุดท้าย

 

 

1. อัพเดต to-do list

คนสำเร็จมักจะจับตามองความคืบหน้าใน to-do list เป็นพิเศษ โดยเฉพาะ 10 นาทีสุดท้ายของการทำงาน พวกเขาจะตรวจสอบความคืบหน้าใน to-do list นั้น ว่าได้บรรลุเป้าหมายของวันนั้นแล้วหรือยัง นอกจากนี้แล้วพวกเขายังไม่ลืมที่จะแก้ไขให้เรียบร้อยในครั้งสุดท้าย แทนที่จะรีบบึ่งกลับบ้านและหวังว่าในวันรุ่งขึ้นเขาจะจำความแตกต่างของลิสต์นั้นได้ในเช้าวันถัดไป

 

2. จัดโต๊ะทำงานและหน้าจอคอมพิวเตอร์

รู้หรือไม่ว่า การที่โปรเจคของคุณต้องใช้ระยะเวลาในการทำงานนาน กว่าจะเสร็จสิ้นตามที่ควรจะเป็นนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคุณไม่ได้จัดระเบียบมัน การจัดระเบียบโต๊ะทำงานและไฟล์ต่างๆ ในคอมพิวเตอร์ จะทำให้คุณคิดอะไรต่างๆ ได้ชัดเจน และจัดลำดับความสำคัญได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสามารถค้นหาเอกสาร รวมถึงงานต่างๆ ได้อย่างง่ายดายเวลาที่คุณต้องการใช้มันในครั้งต่อไปอีกด้วย

 

3. ทบทวนงานที่ได้ทำไปแล้ว

นอกจากการมีสมาธิจดจ่ออยู่กับงานที่ต้องทำแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ การทบทวนถึงงานที่คุณได้ทำสำเร็จไปแล้ว โดยอาจใช้เวลาสักประมาณ 1 นาที เพื่อให้คุณได้รู้สึกถึงความสำเร็จที่ผ่านพ้นไป โดยเฉพาะวันที่คุณยุ่งมากๆ นี่จะเป็นสิ่งเตือนใจคุณได้อย่างดีว่าตัวคุณสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด นอกจากนี้งานวิจัยเกี่ยวกับความสุขยังพบอีกว่า การทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่างการทบทวนสิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นประจำทุกวัน ยังช่วยยกระดับความสุขโดยรวมของคุณได้เป็นอย่างดี

 

4. ประเมินตัวเอง

นอกจากการคิดถึงงานที่ได้ทำลงไปแล้ว คนสำเร็จยังมีการประเมินและวิเคราะห์ตัวเองอีกด้วย ว่าสิ่งต่างๆ ที่ได้ทำลงไปในวันนั้น มีอะไรที่ถูกต้องหรือผิดพลาดบ้าง และเรียนรู้จากสิ่งเหล่านั้น เพราะพวกเขารู้ดีว่าถ้าเขาไม่เรียนรู้อะไรเลย เขาก็จะไม่มีวันเติบโตมากไปกว่านี้

 

5. รู้จักคัดกรองการสื่อสารที่ "เร่งด่วน"

เมื่อคุณเสร็จสิ้นการทำงานในแต่ละวัน แน่นอนว่าคุณทำงานเสร็จแล้ว แต่การสื่อสารต่างๆ นั้นยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งอาจมีบางครั้งที่มีสายโทรศัพท์โผล่มาหาคุณหลังเวลาเลิกงานได้ และคนที่สำเร็จนั้นจะมีความสามารถในการคัดกรองว่าอะไรคือสิ่งที่ต้องตอบสนองทันที ณ ตอนนั้น อะไรที่สามารถรอตอนเช้าวันรุ่งขึ้นได้ ซึ่งการผลักให้การสนทนาไปอยู่ในเช้าวันรุ่งขึ้นได้นั้น จะทำให้คุณมีเวลากลับมานั่งทบทวนในคืนนั้น เพื่อนำสิ่งที่คุณได้คิดไปอภิปรายต่อในที่ประชุมในวันรุ่งขึ้นได้

 

6. มีสมาธิจดจ่อกับการทำงาน

ช่วงเวลาใกล้เลิกงานนั้นมักจะเป็นช่วงที่จิตใจล่องลอยได้ง่าย เพราะความเหน็ดเหนื่อยจากงานมาตลอดทั้งวันนั้นมักจะทำให้เราสมาธิหลุดได้ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ฉะนั้น พยายามอย่าทำให้ตัวเองฟุ้งซ่านไปกับเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับการทำงาน หรือกิจกรรมอื่นๆ จนกว่าจะถึงเวลาเลิกงานจริงๆ

 

7. กำหนดเป้าหมายของวันถัดไป

คนสำเร็จนั้นมีการวางแผนล่วงหน้าก่อนเสมอ โดยก่อนเวลาเลิกงานนั้น เขามักจะวางแผนล่วงหน้าว่าในวันถัดไป พวกเขามีงานอะไรที่ต้องทำบ้าง เพื่อให้เวลาที่เขาเดินทางมาถึงออฟฟิศในตอนเช้า จะได้พร้อมเริ่มงานในทันที ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้อยู่ในใจแล้วก็ตาม แต่รู้หรือไม่ว่าการเขียนเป้าหมายออกมาในกระดาษ และติดไว้ให้ตัวเองเห็นชัดๆ ได้มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้คุณโฟกัสกับงานได้มากเท่านั้น ซึ่งจะทำให้คุณขจัดสิ่งที่ไม่จำเป็นในหัวออกไปได้ และพร้อมที่จะทำงานตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ในวันรุ่งขึ้น

 

8. ตรวจสอบตารางนัดหมายของวันรุ่งขึ้น

ไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการที่คุณมาถึงออฟฟิศในเช้าวันรุ่งขึ้น เพื่อรู้ว่าคุณต้องเข้าประชุมใหญ่ในอีก 5 นาทีข้างหน้า สำหรับคนสำเร็จแล้ว เขาเลือกที่จะทบทวนตารางนัดหมายของวันรุ่งขึ้น เพื่อดูว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง มีนัดหมายอะไรหรือเปล่า และดำเนินไปตามตารางที่ได้วางไว้ และที่สำคัญที่สุด เขามักจะจินตนาการถึงภาพในวันถัดไปเสมอว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในวันนั้น ซึ่งจะทำให้การทำงานในวันถัดไปมีการวางแผนที่ดีขึ้น ทำให้คุณมีความมั่นใจในการทำงาน และลดระดับความเครียดลงได้อีกด้วย

 

9. กล่าวคำ "ขอบคุณ" กับเพื่อนร่วมงาน

สถานที่ทำงานที่ดีนั้นมักเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศแห่ง "การขอบคุณ" และ "เห็นคุณค่าในตัวของผู้คน" การสร้างนิสัยในการขอบคุณผู้คนนั้น เป็นวิธีในการเพิ่มระดับความสุขของคุณได้อย่างเหลือเชื่อ และช่วยสร้างความประทับใจระหว่างคุณกับเพื่อนร่วมงานได้เป็นอย่างดี

 

10. ไม่ลืมที่จะกล่าวคำบอกลาก่อนกลับบ้าน

เพียงคำบอกลาง่ายๆ อย่างคำว่า "กลับบ้านแล้วนะ" "บ๊ายบาย" "สวัสดี" นั้น ก็สามารถสร้างความรู้สึกดีๆ ให้กับเพื่อนร่วมงานได้แล้ว ทั้งยังเป็นสิ่งที่ไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายนัก ซึ่งการบอกลานี้ยังเป็นการแสดงให้ผู้บังคับบัญชาและเพื่อนๆ ในทีมได้เห็นว่า คุณนั้นก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงานเพียวอย่างเดียว

 

11. ทิ้งความรู้สึกดีๆ ไว้

ก่อนที่เขาจะกลับบ้าน คุณสามารถสร้างความรู้สึกดีๆ ให้กับเพื่อนร่วมงานได้ง่ายๆ ด้วยการ "ยิ้ม" ให้เขาสักเล็กน้อย ซึ่งการยิ้มนี้จะช่วยทำให้บรรยากาศที่ตึงเครียดตลอดการทำงานทั้งวันนั้นผ่อนคลายลงไปได้ ทั้งยังช่วยสร้างความประทับใจให้กับเพื่อนร่วมงานได้อีกด้วย ซึ่งเป็นคุณลักษณะประการหนึ่งของคนสำเร็จ

 

12. ได้เวลากลับบ้านแล้ว

เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นลงแล้ว พวกเขาจะรีบบึ่งกลับบ้านในทันที เพราะพวกเขารู้ดีว่าสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานนั้นสำคัญต่อพวกเขาเพียงใด ยิ่งไปกว่านั้น การนั่งอยู่ในออฟฟิศหลังเวลาเลิกงานโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรนั้น ยังเป็นการจำกัดพลังในการทำงานของวันรุ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่คนสำเร็จต่างหลีกเลี่ยงด้วยกันทั้งนั้น

 

ทั้ง 12 สิ่งที่ FreelanceBay นำมาฝากเพื่อนๆ กันนี้ อาจจะดูไกลตัวอาชีพฟรีแลนซ์ที่นั่งทำงานอยู่ที่บ้านสักเล็กน้อย แต่จริงๆ แล้วนั้นหากมองดีๆ ก็สามารถนำบางข้อไปปรับใช้ในการทำงานฟรีแลนซ์ได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในเรื่องของการวางแผนงาน และการจัดการตัวเอง ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่คนประสบความสำเร็จล้วนมีอยู่ในตัว หากเพื่อนๆ สามารถนำไปปรับใช้ในการทำงานได้ ก็เชื่อเหลือเกินว่าความสำเร็จนั้นอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน

กำลังเชื่อมต่อ